สมาคมประกันชีวิตคาดปี 56 เบี้ยประกันรวมกว่า 4.59 แสนล้านหรือโตขึ้น 17.3% ดันคนไทยถือกรมธรรม์เพิ่มเป็น 38% ของประชากร มั่นใจอนาคตยังโตอีกเพียบ หากเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว ระบุสินทรัพย์ทั้งระบบปีนี้อาจแตะ 2 ล้านล้านบาทส่วนสินทรัพย์ลงทุน 1.9 ล้านล้านบาท ขณะที่แนวโน้มการลงทุนยังไม่เปลี่ยน เน้นพันธบัตร-หุ้นกู้ เหตุต้องสอดคล้องกับสินค้า
นายสาระ ล่ำซำ ในฐานะนายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตของประเทศไทยในปีนี้น่าจะมีการขยายตัวต่อจากปีที่แล้ว และคาดว่าเบี้ยประกันภัยรับรวมในปีนี้จะเติบโตจากปีที่แล้วประมาณ 17.3% โดยมีเบี้ยรับรวม 4.59 แสนล้านบาท ซึ่งจะทำให้อัตราถือครองกรมธรรม์ของคนไทยปรับตัวขึ้นเป็น 38% ของจำนวนประชากร
"ตัวเลข 38% ในปีนี้ยังถือว่าไม่มากและเชื่อว่าอัตราถือครองกรมธรรม์ของคนไทยยังมีโอกาสขยายตัวอีกเยอะ ซึ่งหากดูประเทศที่เข้าพัฒนาแล้วตัวเลขนี้อาจสูงถึง 70-90%"
ทั้งนี้ตัวเลขประมาณการณ์ของเบี้ยรับรวมในปี 2556 จะแบ่งเป็นเบี้ยประกันชีวิตรับรายใหม่ 1.62 แสนล้าบาท เติบโตขึ้น 24.2% และเบี้ยประกันภัยชีวิตปีต่อไป 2.97 แสนล้านบาท เติบโตขึ้น 13.9% ซึ่งนับเป็นอัตราการคงอยู่ของกรมธรรม์ประกันชีวิตถึง 86.4%
ส่วนภาพรวมของธุรกิจประกันชีวิตในปีที่ผ่านมา(2555)พบว่า มีเบี้ยประกันชีวิตรวมทั้งหมด 3.91 แสนล้านบาท เติบโตขึ้น 19.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ 1.3 แสนล้านบาท เติบโตขึ้น 32.5% และเบี้ยประกันชีวิตปีต่อไป 2.6 แสนล้านบาท เติบโตขึ้น 13.4% ส่งผลให้ในปี 2555 อัตราการคือครองกรมธรรม์ของคนไทยเพิ่มขึ้นเป็น 35% ของจำนวนประชากร
"ปีที่ผ่านมาคนไทยเริ่มเข้าใจและให้ความสำคัญประกันชีวิตมากขึ้น และได้รับการสนับจากนโยบายภาครัฐทั้งเรื่องของภาษีและการเพิ่มความรวมเร็วในการอนุมัติกรมธรรม์ก่อนขายของคปภ. นอกจากนี้บริษัทประกันชีวิตยังมีการพัฒนาสินค้าร่วมถึงช่องทางจำหน่ายให้สอดคล้องกับความต้องการและเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจประกันชีวิตเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีนี้"
นายสาระ กล่าวอีกว่า นอกจากปัจจัยสนับสนุนที่กล่าวไปข้างต้น ในปีนี้เพื่อเป็นสนับสนุนให้ธุรกิจประกันชีวิตเติบโตเพิ่มขึ้นคือการพัฒนาช่องทางตัวแทนของทุกบริษัท โดยจะมีการส่งเสริมการเพิ่มและพัฒนาตัวแทนให้มีจำนวนและคุณภาพมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงช่องทางการจำหน่ายอื่นๆ ให้มีความหลากหลายด้วยบริการอย่างรวดเร็วกและมีคุณภาพยิ่งขึ้น
"ในปีนี้น่าจะมีคนสมัครสอบตัวแทนมากขี้นถึง 1.5 แสนคน แ
ละเข้าสอบจริงประมาณแสนกว่าคน ซึ่งคงจะสอบได้ประมาณ 5 หมื่นกว่าคนหรือประมาณ 45% ของคนเข้าสอบ ซึ่งจำนวนตัวแทนที่เพิ่มขึ้นก็น่าจะส่งผลดีในการเติบโตของเบี้ยประกันชีวิตที่"
เน้นลงทุนพันบัตร
นายสาระ กล่าวอีกว่า การลงทุนของธุรกิจประกันชีวิตจะยังคงเน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือตามที่กำหนดไว้จากทางคปภ. เป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันสินทรัพย์รวมของธุรกิจประกันชีวิตมีทั้งสิ้น 1.7 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นสินทรัพย์ลงทุน 1.6 ล้านล้านบาท ส่วนในปีนี้คาดว่า สินทรัพย์รวมทั้งหมดน่าจะเพิ่มขึ้นได้ถึง 2 ล้านล้านบาท ส่งผลให้สินทรัพย์ลงทุนเพิ่มขึ้นเป็น 1.9 ล้านล้านบาทได้
"การลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเป็นในแนวทางเดิมคือต้องอิงกับสินค้าที่ออก ซึ่งหากสินค้ายังคงเป็นแบบสะสมทรัพย์ กรมธรรม์บำนาญระยะยาวการลงทุนคงจะไม่เปลี่ยนไปจากนี้ ส่วนการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นขณะนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งแผนการลงทุนที่กำลังทำอยู่กับทางคปภ.ยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเท่านั้น"