“ซีอีโอ” กรุงศรีฯ เปิดแถลงข่าวพร้อมอ้าแขนรับกลุ่มแบงก์มิตซูฯ มั่นใจช่วยเสริมศักยภาพ และการสยายปีกในภูมิภาค เพื่อรองรับเออีซี พร้อมยืนยัน “กลุ่มรัตนรักษ์” ไม่ลดจำนวนหุ้นที่ถือครอง
นายวีระพันธุ์ ทีปสุวรรณ ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดแถลงข่าวในวันนี้ (3 ก.ค.) โดยระบุว่า ธนาคารพร้อมรับการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นรายใหญ่จาก GE Capital เป็นธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (Bank of Tokyo-Mitsubishi UFJ: BTMU) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเครือมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเซียล กรุ๊ป (Mitsubishi UFJ Financial Group: MUFG) สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลกที่ให้บริการทางการเงินที่หลากหลาย และครบวงจร พัฒนาการที่สำคัญครั้งนี้จะช่วยย้ำความแข็งแกร่งของธนาคารกรุงศรีในประเทศไทย และเสริมศักยภาพในการขยายธุรกิจไปสู่ประเทศในภูมิภาคให้คล่องตัวยิ่งขึ้น อีกทั้งจะทำให้ธนาคารได้มีโอกาสในการสร้างสัมพันธภาพกับลูกค้าต่างประเทศมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา นับจากวิกฤตสถาบันการเงินในเอเชีย เรื่องราวของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ก็ได้โดดเด่นในประวัติศาสตร์การเงินของเอเชีย เริ่มต้นจากการยืนหยัดในการฟันฝ่าวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 2540 ด้วยการเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นของธนาคารล้วนๆ ภายใต้การนำของกลุ่มรัตนรักษ์ จนสามารถรอดพ้นจากความเสียหาย และวิกฤตการณ์ของภาคการเงิน และเมื่อกลุ่ม GE Capital ได้เข้ามาเป็นผู้นำในการบริหาร และเป็นผู้ถือหุ้นร่วมกับกลุ่มรัตนรักษ์เมื่อประมาณเกือบ 7 ปีที่ผ่านมา ธนาคารกรุงศรีฯ ก็ได้มีผลประกอบการที่น่าประทับใจมาโดยตลอด
และในวันนี้ เมื่อกลุ่ม MUFG/BTMU มีความประสงค์อย่างแรงกล้าที่จะเป็นผู้นำในการบริหารและเข้าถือหุ้นแทนกลุ่ม GE Capital แล้วยังจะซื้อหุ้นเพิ่มอีกด้วยการเข้าทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ หุ้นทั้งหมด และหลังที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้ให้ความเห็นชอบกลุ่มรัตนรักษ์ก็จะไม่ลดจำนวนหุ้นที่ถือครองอยู่ แต่ธนาคารกรุงศรีฯ และกลุ่มรัตนรักษ์ ก็ยินดีเปิดรับให้สถาบันการเงินที่มีความสำคัญระดับโลก มีบริการการเงิน และผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย รวมทั้งเป็นผู้ถือหุ้นรายสำคัญใน Investment Bank ยักษ์ใหญ่ที่ชื่อว่า Morgan Stanley เข้ามามีบทบาทสำคัญเป็นผู้นำที่จะต่อยอดสร้างผลงานของกรุงศรีฯ ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคำนึงถึง AEC ที่กำลังใกล้เข้ามา และปริมาณธุรกิจ และการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นที่ไหลเข้าประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งโอกาสที่ธนาคารกรุงศรีฯ จะได้เชื่อมโยงกับภาคธุรกิจสำคัญทั่วโลก อนาคตของธนาคารจึงดูสดใสยิ่งนัก การเปิดประตูต้อนรับให้ MUFG/BTMU เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้น และรับภารกิจที่ท้าทายยิ่ง จึงเป็นเรื่องที่จะก่อให้เกิดผลดีแก่ลูกค้า ผู้ถือหุ้น และทุกฝ่ายที่มีส่วนได้เสียกับธนาคารกรุงศรีฯ และสังคมไทย
ด้านนางเจนิส แวน เอ็กเคอเรน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ธนาคารเชื่อว่าการร่วมเป็นพันธมิตรเชิงยุทธ์กับธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ และเร่งการเติบโตของธนาคารกรุงศรีอยุธยาในเอเชีย ธนาคารพร้อมที่จะทำงานร่วมกับธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ เพื่อขยายการให้บริการทางการเงินในไทยเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่กว้างขึ้น และหลากหลายขึ้น