โบรกฯ ชี้หุ้นไทย และทองคำยังแกว่งตัวต่อเนื่อง แนะนักลงทุนปรับสัดส่วนพอร์ต และแบ่งถือเงินสดสำรองไว้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ชี้ราคาทองคำอาจพุ่งลงอีก แนะแบ่งเทขายออกทำกำไร
สรุปการซื้อขายตลาดหุ้นไทยครึ่งวันเช้าวันนี้ (24 มิ.ย.) ปิดที่ระดับ 1,391.00 จุด ปรับตัวลดลง 9.50 จุดหรือ 0.68% มูลค่าการซื้อขาย 20,055.59 ล้านบาท ดัชนีขึ้นสูงสุดที่ 1,404.85 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,388.09 จุด โดยดัชนีภาคเช้าผันผวนแกว่งตัวในแดนลบ สลับกับปรับตัวขึ้นในแดนบวกบ้างเล็กน้อย ก่อนที่จะปรับตัวลดลงมาปิดที่ 1,391.00 จุด ส่วนหนึ่งมาจากการที่นักลงทุนยังมีความกังวลในการยกเลิกมาตรการ QE ในกลางปีหน้า และตลาดดัชนีหุ้นต่างๆ ทั่วโลกอยู่ในระดับทรงตัว
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง หรือ MBKET กล่าวว่า ดัชชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้อาจปรับตัวขึ้นบางเล็กน้อย หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว หากมองตามมูลค่าหุ้นถือว่ามีราคาที่ถูกในทุกกลุ่ม นักลงทุนควรที่จะทยอยซื้อสะสม ซึ่งหุ้นไทยในสัปดาห์นี้เป็นช่วงที่ดัชนีหุ้นปรับฐานลงมา นักลงทุนควรปรับพอร์ตการลงทุน โดยแบ่งเงินส่วนหนึ่งในการลงทุน และมีเงินสดสำรองหมุนเวียนในพอร์ตลงทุน ซึ่งถ้าหากต้องการลงทุนในช่วงนี้ ควรเน้นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับหุ้นโครงสร้างพื้นฐานเป็นหลักที่ยังคงทำกำไรได้ดี เช่น หุ้นกลุ่มธนาคาร หุ้นกลุ่มสื่อสาร หุ้นกลุ่มอสังหาฯ และหุ้นกลุ่มขนส่ง
อย่างไรก็ตาม หุ้นในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องอย่างรุนแรง ตามประกาศนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะลดอัตราวงเงินเพื่อซื้อพันธบัตร และเตรียมที่จะยกเลิกมาตรการ QE ในกลางปีหน้า ประกอบกับสถานการณ์ส่งออกของประเทศจีนสะดุดลง และขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรงในขณะนี้ ฉุดดัชนีหุ้นในภูมิภาคปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ดิ่งลงแรงมากที่สุดในเอเชียเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการ QE อย่างไรก็ดี ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นฟากยุโรปยังสามารถปรับตัวขึ้นได้เมื่อเปิดตลาด
ในส่วนของราคาทองคำนั้น ยังคงตกอยู่ในสภาวะผันผวนรุนแรง และมีความเสี่ยงสูง ซึ่งถ้าหากราคาปรับตัวกลับขึ้นมาอาจจะอยู่ที่ระดับ 1,310 เหรียญสหรัฐ/ทรอยออนซ์ ควรเทขายทำกำไรตัดขาดทุน ทั้งนี้ สมาคมค้าทองคำ เตือนนักลงทุนเฝ้าระวังราคาทองคำ มีแนวโน้มที่ราคาจะตกลงไปที่ 1,270 เหรียญสหรัฐ/ทรอยออนซ์ ซึ่งมีโอกาสปรับตัวลงต่อเนื่อง และอาจดิ่งยาวไปถึงระดับที่ 1,260 และ 1,250 เหรียญสหรัฐ/ทรอยออนซ์ ส่วนกลยุทธ์การลงทุนรอบนี้ แนะแบ่งทองออกขายทำกำไร หากราคาดีดตัวขึ้นแตะบริเวณแนวต้าน 1,310 หรือ 1,323 ดอลลาร์ต่อออนซ์