xs
xsm
sm
md
lg

แรงขายทุบหุ้นร่วง 32 จุด 3 วัน ตปท.หอบเงินกลับ 1.2 หมื่นล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


    ไม่ฟื้นจริง!  หุ้นไทยร่วงหนัก 32 จุด พอร์ตโบรกฯ เทขาย 2.5 พันล้าน ต่างชาติซ้ำอีก 2 พันล้าน โดยรวมแค่ 3 วันทำการของเดือนมิถุนายน ต่างชาติขายไปแล้ว 1.2 หมื่นล้านบาท โบรกฯ เตือนนักลงทุนอย่าประมาท แรงขายอาจต่อเนื่องจนถึงจันทร์หน้า (10 มิ.ย.) จับตาตัวเลขจ้างงาน และผลประชุมเฟดอย่างใกล้ชิด เพราะมีผลกำหนดทิศทางของดัชนี ประเมินพรุ่งอาจรีบาวนด์บ้างเล็กน้อย

    ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทย วันนี้ (5 มิ.ย.) ตั้งแต่เปิดตลาด ดัชนีปรับตัวลดลงแรงอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยมีแรงขายในกลุ่มสื่อสารและธนาคารเข้ามาจำนวนมาก ทั้งนี้ ดัชนีปิดที่ระดับ 1,522.66 จุด ลดลง 32.95 จุด หรือ 2%  มูลค่าการซื้อขาย 50,717.88 ล้านบาท โดยปรับตัวสูงสุดระหว่างวันอยู่ที่ 1,549.38 จุด ส่วนปัจจัยที่มีผลกระทบหลักยังมาจากความกังวลของนักลงทุนต่อมาตรการ QE3 ของสหรัฐฯ และการอ่อนค่าของเงินบาท     ขณะที่ความเคลื่อนของตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชีย  ดัชนี Nikkei ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดลบที่ 518.89 จุด หรือ 3.99% และดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงนั้นปิดลบที่  216.28 หรือ 0.98%

    สำหรับการซื้อขายแยกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 2,545.29 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 2,114.27 ล้านบาท โดยนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 3,158.26 ล้านบาท และสถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,501.30 ล้านบาท แต่เพียง 3 วันทำการของเดือนมิถุนายน นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิออกไปแล้ว 12,620.34 ล้านบาท

    หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
INTUCH ราคาปิดที่ 88.00 บาท ลบ 3 บาท หรือ 3%
ADVANC ราคาปิดที่ 262.00 บาท ลบ 13 บาท หรือ 4.73%
KBANK ราคาปิดที่ 193.50 บาท ลบ 7.50 บาท หรือ 3.73%
TRUE ราคาปิดที่ 9.95 บาท ลบ 0.45 บาท หรือ 4.33%
KTB ราคาปิดที่ 21.30 บาท ลบ 0.80 บาท หรือ 3.62%

    นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัยหลักทรัพย์ บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง หรือ MBKET กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในระยะนี้ยังอยู่ในช่วงขาลงจากแรงเทขายเพื่อทำกำไรของนักลงทุนต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าน่าจะมีแรงเทขายยาวไปจนถึงวันจันทร์หน้า ซึ่งต้องดูยอดสรุปตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ อีกครั้งในวันศุกร์นี้ ว่าจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่า มาตรการ QE และตัวเลขการจ้างงานในภาคเกษตรกรรมของสหรัฐฯ ตลอดถึงการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดวงเงินการซื้อพันธบัตรลง จะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงภูมิภาคเอเชียด้วย

    อย่างไรก็ดี บรรยากาศโดยรวมของการลงทุนตลาดหุ้นไทยในระยะนี้ ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจไม่เปลี่ยนแปลงมากเท่าใด โดยหุ้นกลุ่มที่ยังน่าจับตาและยังน่าลงทุนระยะยาว ได้แก่ หุ้นกลุ่มธนาคาร เพราะราคาถือลดลงมาในระดับที่ถือว่าถูกในแง่ของมูลค่าหุ้น โดยให้แนวรับสำคัญอยู่ 1,520 จุด แนวต้านจะอยู่ที่ 1,550 จุด และแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,500 จุด
    
    นักวิเคราะห์อีกรายให้ความเห็นว่า  ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงตามตลาดหุ้นในต่างประเทศ ปัจจัยหลักที่กดดันคือ ความกังวลมาตรการ QE ที่ทางเฟดอาจจะลดระดับเม็ดเงินลง หรืออาจจะยุติเร็วกว่ากำหนด ทำให้ทิศทางวันพรุ่งนี้(6 มิ.ย.) ดัชนียังมีโอกาสแกว่งตัวผันผวนเพื่อรอความชัดเจนจากฝั่งสหรัฐฯ ต่อไป โดยให้กรอบแนวรับ 1,530 จุด แนวต้าน 1,555-1,560 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น