ดัชนีหุ้นไทยปิดลบลดลง 19.25 จุด โดยปิดที่ระดับ 1,562.07 จุดวอลุ่มเทรด 7.5 หมื่นล้าน จากความกังวลเฟตลดวงเงินซื้อพันธบัตร พบ พ.ค.ต่างชาติขาย 5 พันล้าน และะตั้งแต่ต้นปี สถาบันซื้อสะสมเพียงเจ้าเดียว 4.1 หมื่นล้าน โบรกฯ แนะสัปดาห์หน้ายังแกว่งตัวในกรอบแคบ ภาพรวมยังเป็นขาลงไร้ปัจจัยใหม่มากระตุ้น ประเมินมีโอกาสรีบาวนด์เล็กน้อย เชื่อความไม่ชัดเจนในมาตรการ QE3 กดดันทิศทางตลาดในครึ่งปีหลัง
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (31 พ.ค.) เคลื่อนใหวอยู่ในแนวลบตลอดทั้งวัน จากความกังวลต่อการชะลอมาตรการ QE3 จึงเกิดแรงเทขายจากนักลงทุน โดยเฉพาะต่างชาติซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งภูมิภาค โดยปิดที่ระดับ 1,562.07 จุด ลดลง 19.25 จุด หรือ 1.22% มูลค่าการซื้อขาย 75,638.29 ล้านบาท ระหว่างวันปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,595.12 จุด และลดลงต่ำสุดที่ 1,555.23 จุด หลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มขึ้น 238 หลักทรัพย์ ลดลง 474 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 128 หลักทรัพย์
ขณะที่การซื้อขายสุทธิแยกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนทั่วไป ซื้อสุทธิ 2,752.13 ล้านบาท สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,675.38 ล้านบาท ส่วนบัญชีบริษัทหลักหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 592.01 ล้านบาท และนักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 3,835.50 ล้านบาท
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE ปิดที่ 11.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.91% มูลค่าการซื้อขาย 6,681,921 ล้านบาท
ADVANC ปิดที่ 263.00 บาท ลดลง 13.00 บาท หรือ 4.71% มูลค่าการซื้อขาย 5,881,881 ล้านบาท
INTUCH ปิดที่ 89.00 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 2.73% มูลค่าการซื้อขาย 4,791,759 ล้านบาท
SCB ปิดที่ 173.50 บาท ลดลง 4.50 บาท หรือ 2.53% มูลค่าการซื้อขาย 3,331,291 ล้านบาท
MINT ปิดที่ 27.00 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 2.70% มูลค่าการซื้อขาย 3,295,769 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยตั้งแต่วันที่ 1-31 พฤษภาคม พบว่านักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 5,147.36 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 4,704.60 ล้านบาท สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 3,356.00 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ 2,913.24 ล้านบาท
ส่วนมูลค่าการซื้อขายสะสมตั้งแต่ 1 มกราคม-31 พฤษภาคม กลับพบว่า สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 41,604.85 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 21,092.26 ล้านบาท นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ขายสุทธิ 16,125.42 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 4,387.17 ล้านบาท
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ได้กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ดัชนีเคลื่อนไหวในแนวลบตลอดภาคทั้งวัน จากแรงเทขายของลักลงทุนต่างประเทศในหุ้นกลุ่มสื่อสาร ธนาคารพาณิชย์ และพลังงาน ที่มีการเทขายออกมาอย่างต่อเนื่องในปริมาณมากตลอดทั้งวัน ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยไม่สามารถขยับมายืนขึ้นเหนือ 1,600 จุดได้
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียก็ปรับตัวลงด้วยเช่นกัน โดยส่วนหนึ่งมาจากความกดดันในมาตราการ QE3 ของสหรัฐฯ ว่าจะมีการยกเลิกก่อนกำหนดหรือไม่ และกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตร และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมจะยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนออกมา ซึ่งทำให้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ไว้ ทำให้นักลงทุนมีการปรับพอร์ตการลงทุนลง เพื่อลดปัจจัยความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า คาดว่าดัชนีจะยังคงแกว่งตัวผันผวนในกรอบแคบๆ แต่อาจมีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากจะยังคงไม่มีปัจจัยอะไรที่เด่นชัดมาทำให้ตลาดขยับขึ้นมาได้ อีกทั้งยังมีความกังวลในมาตรการ QE3 ของสหรัฐฯ และตลาดหุ้นไทยยังต้องกังวลต่อแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังเป็นเชิงลบ ทั้งนี้แนวต้านที่ 1,600 จุด และแนวรับที่ 1,480 จุด