หุ้นไทยรีบาวนด์ 16 จุด รายย่อย-สถาบัน-พอร์ตโบรกฯ ซื้อกันเองสนุกมือ ขณะที่ต่างชาติยังปรับพรอ์ต กังวลความชัดเจนมาตรการ QE สหรัฐฯ โดยขายออกมาอีก 4.7 พันล้านบาท นักวิเคราะห์เตือนอย่าชะล่าใจ ดีดตัวแค่ช่วงสั้น รอบปรับฐานยังไม่จบ แนะจับตานโยบายการเงินในประเทศควบคู่กับการติดตามเฟด
ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (4 มิ.ย.) ปรับตัวรีบาวนด์ขึ้น หลังลดลงอย่างต่อเนื่องมาจากสัปดาห์ก่อน โดยปิดที่ระดับ 1,555.61 จุด เพิ่มขึ้น 16.35 จุด หรือ 1.06% มูลค่าการซื้อขาย 61,636.76 ล้านบาท โดยมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และสื่อสารเข้ามาช่วยหนุนตลาด แต่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิอีก 4,738.33 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนทั่วไป สถาบัน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ซื้อสุทธิ 1,787.47 ล้านบาท, 1,725.83 ล้านบาท และ 1,225.03 ล้านบาท ตามลำดับ ระหว่างวันดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,556.97 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,524.58 จุด
หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 359 หลักทรัพย์ ลดลง 321 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 146 หลักทรัพย์ ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ SCB มูลค่าการซื้อขาย 3,080.01 ล้านบาท ปิดที่ 174.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,958.95 ล้านบาท ปิดที่ 10.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,941.61 ล้านบาท ปิดที่ 161.50 บาท ลดลง 4.50 บาท ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 2,933.36 ล้านบาท ปิดที่ 275.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาท และ INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 2,888.61 ล้านบาท ปิดที่ 91.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นวันนี้ค่อนข้างผันผวน โดยปรับตัวลดลงในช่วงเช้าก่อนที่จะมีแรงเข้าซื้อที่หนาแน่นในช่วงบ่าย เป็นผลมาจากปัจจัยภายนอกเป็นหลัก เนื่องจากค่าเงินเยนมีแนวโน้มที่อ่อนค่ามากขึ้น และนักลงทุนเริ่มคลายกังวลในเรื่องการหยุดมาตรการ QE ของสหรัฐฯ นอกจากนี้ นักลงทุนยังมองว่าราคาหุ้นขนาดใหญ่หลายกลุ่มมีการขายออกมามาก ทำให้ราคาอ่อนตัวลงมาเยอะ จึงเริ่มมีการเข้าไปซื้อหุ้นเก็บไว้ แต่การปรับขึ้นยังเป็นเพียงระยะสั้น และมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อ โดยมีโอกาสที่จะลดลงไปทดสอบ 1,450 จุด หลีกเเลี่ยงการลงทุนหุ้นหมด 100% ในพอร์ต
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยรีบาวนด์ในทิศทางเดียวกับตลาดอื่นๆ ในเอเชีย แต่ไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามา โดยทิศทางวันพรุ่งนี้ (5 มิ.ย.) คาดว่า ดัชนีจะรีบาวนด์ต่อเนื่องไปอีกระยะ แนวต้านที่ระดับ 1,580 จุด และเชื่อว่าการปรับฐานยังไม่จบรอบ แม้ปัจจัยพื้นฐานของประเทศเปลี่ยนแปลง แต่นักลงทุนต่างชาติยังปรับพอร์ตอยู่ สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ นโยบายการเงินในประเทศ และนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) รวมถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.)ไตรมาส 2/56 หากออกมาเติบโตได้ดีอย่างที่คาดไว้ราว 56% ก็จะทำให้กำไรของ บจ.ครึ่งปีแรกรวมกันที่ 54% ของประมาณการทั้งปี ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี