xs
xsm
sm
md
lg

ดัชนีหุ้นไทยยังเสี่ยงผันผวน ปิดตลาดร่วง 19.16 จุด ต่างชาติทิ้งอีก 5.8 พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ดัชนีหุ้นไทยยังแกว่งผันผวนแรง ปิดตลาดร่วงต่อ 19.16 จุด ซื้อขายกว่า 6.6 หมื่นล้าน ต่างชาติทิ้งอีก 5.8 พันล้าน ตลท. เตือนหุ้นไทยยังเสี่ยงผันผวนช่วงเงินทุนไหลออก โบรกฯ แนะรายย่อยควรถือหุ้นไว้ก่อน และนิ่งเพื่อรอดูสถานการณ์

ภาวะตลาดหุ้นไทย วันนี้ (12 มิ.ย.) ดัชนีแกว่งผันผวนค่อนข้างแรง โดยปิดตลาดที่ระดับ 1,433.47 จุด ติดลบ 19.16 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.32% มูลค่าการซื้อขาย 66,506 ล้านบาท ด้านสัดส่วนการลงทุนวันนี้ ต่างชาติขาย 5.8 พันล้าน รายย่อยซื้อ 4 พันล้าน สถาบันซื้อ 335 ล้าน บัญชีบล.ซื้อ 1.5 พันล้าน

นักวิเคราะห์ยอมรับว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนสูง แต่ถือว่าลดลงน้อยกว่าวานนี้ โดยปัจจัยกดดันตลาดหุ้นยังเป็นประเด็นความกังวลของนักลงทุนในเรื่องมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (QE) และกระแสเงินไหลออก

ทั้งนี้ คงต้องติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้าว่าจะมีการส่งสัญญาณใดออกมา ซึ่งอาจมีผลต่อทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นได้ สำหรับคำแนะนำในการลงทุนระยะนี้ ให้นักลงทุนถือหุ้นไว้ก่อน และนิ่งเพื่อรอดูสถานการณ์โดยมองกรอบการเคลื่อนไหว

นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ สายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรและการเงิน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า การปรับตัวลดลงแรงของดัชนีหุ้นไทยในช่วงนี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับภูมิภาคที่นักลงทุนเทขายหุ้นในกลุ่ม TIP ซึ่งประกอบด้วย ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ โดยตั้งแต่วันที่ 1-11 มิถุนายน 2556 ดัชนีตลาดหุ้นไทย ลดลงมาแล้วร้อยละ 7.01 โดยฟิลิปปินส์ ลดลงร้อยละ 6.63 และอินโดนีเซีย ลดลงมากที่สุดร้อยละ 9.05

นายภากร มองว่า สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยจะยังคงผันผวนหนัก ตามกระแสข่าวต่างประเทศที่เข้ามากระทบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะต้องติดตามนโยบาย QE ของสหรัฐฯ จะมีความชัดเจนในการลดขนาดลงเมื่อใด ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังมีการขยายตัวที่ดี จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในปีนี้

ส่วนการลงทุนต่างชาติในระยะต่อไป เชื่อว่ายังมีนักลงทุนระยะยาวที่ลงทุนอยู่ในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทยของดัชนี MSCI ที่จัดอันดับความน่าสนใจในการลงทุนของตลาดหุ้นยังไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น สัดส่วนการลงทุนจึงไม่น่าจะลดลง ส่วนกระแสเงินทุนที่ไหลออกในช่วงนี้เป็นเงินลงทุนระยะสั้น ซึ่งจะมีการไหลเข้า-ออกตามกระแสข่าวที่เข้ามากระทบ

อย่างไรก็ตาม พบว่านักลงทุนในตลาดหุ้นไทยมีความหลากหลายมากขึ้น โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนหน้าใหม่ และสถาบันในประเทศมีการออกกองทุนหุ้นเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 39.4 เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2555 ตามภาวะดัชนีตลาดหุ้นที่ปรับสูงขึ้น และมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 7,000-8,000 ล้านบาทต่อวัน เป็น 12,000 ล้านบาทต่อวัน

สำหรับหลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.INTUCH ปิดที่ 79.50 บาท ลดลง 2.50 บาท หรือ 3.05% มูลค่าการซื้อขาย 4,881 ล้านบาท

2.KBANK ปิดที่ 175 บาท ลดลง 6.50 บาท หรือ 3.58% มูลค่าการซื้อขาย 4,881ล้านบาท

3.ADVANC ปิดที่ 240 บาท ลดลง 11 บาท หรือ 4.38% มูลค่าการซื้อขาย 4,355 ล้านบาท

4.MAKRO ปิดที่ 774 บาท เพิ่มขึ้น 12 บาท หรือ 1.57% มูลค่าการซื้อขาย 3,142 ล้านบาท

5.KTB ปิดที่ 19.60 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือ 0.51% มูลค่าการซื้อขาย 2,948 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น