xs
xsm
sm
md
lg

ก.ล.ต. เตือนอย่าตื่นหุ้นทรุด เชื่อเดี๋ยวต่างชาติก็กลับ บาทอ่อนค่าสุดรอบ 8 เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เลขาฯ ก.ล.ต.เตือนอย่าตื่นตระหนกตลาดหุ้นร่วงหนัก มองแค่เป็นการขายทำกำไร เชื่อเดี๋ยวก็ไหลกลับมา ขณะที่เงินบาทล่าสุดแตะ 31.03/05 อ่อนค่าสุดรอบ 8 เดือน

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ร่วงลงหนักในระยะนี้เป็นการขายทำกำไรปกติของนักลงทุนต่างชาติ ดังนั้น จึงไม่ควรตื่นตระหนก และเชื่อว่าเม็ดเงินทุนต่างชาติจะไหลกลับเข้ามาลงทุนในเอเชีย เพราะเศรษฐกิจยังเติบโตได้ดี อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีแรงซื้อจากกองทุนในประเทศช่วยพยุงดัชนีไม่ให้ปรับลงหนักกว่านี้

“สาเหตุที่ตลาดหุ้นไทยปรับลงมาก มาจากแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศเป็นหลัก เนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชัดเจนขึ้น และแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะชะลอหรือยุติมาตรการ QE3 ก่อนกำหนด ประกอบกับ S&P ได้ปรับเพิ่มแนวโน้มอันดับเครดิตสหรัฐจาก Negative มาเป็น Stable เนื่องจากเห็นแนวโน้มเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้นักลงทุนต่างประเทศโยกเงินทุนกลับไปยังสหรัฐฯ”

ขณะที่ทางด้านญี่ปุ่น ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการใดต่อหลังประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไปแล้ว ทำให้ตลาดเกิดความกังวลต่อการฟื้นตัวของญี่ปุ่น ประกอบกับจีนมีแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัวลง นักลงทุนจึงเริ่มกังวลสถานการณ์เศรษฐกิจของเอเชีย

อย่างไรก็ตาม นายวรพล กล่าวว่า แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวจาก 10% มาที่ 7-8% ในปีนี้ แต่ก็ยังมีการเติบโตที่สูง และเศรษฐกิจอินเดียก็ยังเติบโตดีเช่นกัน ส่วนเศรษฐกิจไทยก็ยังเติบโตดี โดยมีโครงสร้างเศรษฐกิจหลากหลาย ทั้งส่งออก อุตสาหกรรม การบริการ รวมทั้งมีความยืดหยุ่น และทนทานต่อความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ดี จึงเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย และไทยเมื่อเห็นราคาดี เหมาะสม

“แรงขายต่างชาติ เป็นเรื่องธรรมดา เขาเข้าลงทุน 7-8 หมื่นล้านบาท เมื่อมีกำไร หุ้นไทยก็ปรับตัวขึ้นมามากแล้ว ก็มีผู้ทำกำไร ปรับพอร์ต ก็อาจคืนกลับเข้ามาถ้าเขาปรับพอร์ตแล้ว”

ปัจจุบัน นักลงทุนสถาบ้นในประเทศ หรือกองทุนรวมในขณะนี้ขยายสัดส่วนมากขึ้น รวมถึงนักลงทุนรายย่อยก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ขณะที่สัดส่วนนักลงทุนต่าวชาติลดลง ทำให้ขณะนี้นักลงทุน 3 กลุ่มในตลาดหุ้นไทยอยู่ในสัดส่วนไล่เลี่ยกัน

“จะเห็นได้ว่ากองทุน LTF กองทุน RMF มีขนาดใหญ่ขึ้น และจำนวนกองทุนก็เพิ่มขึ้นด้วย รวมทั้งมีกองทุนทริกเกอร์ที่ถือเป็นกองทุนหุ้นระยะกลาง เหล่านี่ช่วยพยุงตลาด หรือไม่ทำให้ตลาดปรับลงไปแรงมากกว่านี้ ซึ่งเป็นผลที่ ก.ล.ต.ได้ส่งเสริมมากในการยกระดับสถาบันในประเทศ และได้เตรียมความพร้อมกองทุนในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา”

ทั้งนี้ เลขาฯ ก.ล.ต. เตือนนักลงทุนให้ตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ ติดตามข้อมูล และอย่าตกใจเมื่อมีแรงขายทำกำไรเกิดขึ้น เพราะเชื่อว่านักลงทุนต่างประเทศจะกลับมาเมื่อเห็นว่าลงทุนคุ้มค่า ขณะที่คาดว่า บริษัทจดทะเบียนของไทยยังมีผลประกอบการที่ดีอยู่ และเศรษฐกิจเอเชียก็ยังเติบโตได้ดี

ทางด้านนักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.93/95 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับเมื่อเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.94/97 บาท/ดอลลาร์ โดยล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. เงินบาทได้อ่อนค่าไปแตะระดับ 31.03/05 บาท/ดอลลาร์แล้ว ซึ่งถือว่าอ่อนค่าสุดในรอบ 8 เดือนนับตั้งแต่ ต.ค.55

“น่าจะอ่อนค่าลงไปมากสุดตั้งแต่ต้น ต.ค.ปีที่แล้วที่บาทไปแตะระดับนี้ วันนี้บาทอ่อนไปเยอะแล้ว ต้องดูปัจจัยจากตลาดหุ้นด้วย เพราะหุ้นไทยก็ลงค่อนข้างแรง บาทอาจอ่อนได้อีกเล็กน้อยแต่น่าจะใกล้ๆ จบแล้ว”

นักบริหารเงินคาดว่าวันนี้ เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.90-31.08 บาท/ดอลลาร์ ขณะเดียวกัน ต้องติดตามความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลอื่นๆ ในภูมิภาค รวมทั้งทิศทางค่าเงินดอลลาร์ด้วยเช่นกัน ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 31.1175 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.23334%
กำลังโหลดความคิดเห็น