บลจ.กรุงศรี ,บลจ.ยูโอบี และ บลจ.ทิสโก้ สบช่องส่งกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ลุยตลาด หลังดัชนีหุ้นไทยหลุด 1,500 จุด จากความกังวลทั้งในและนอกประเทศ มั่นใจเห็นดัชนีมีโอกาสแตะ 1,700 จุด
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อทิศทางของตลาดหุ้นไทย และเชื่อมั่นว่าการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ เช่น แนวโน้มเงินลงทุนทั่วโลกไหลเข้าตลาดหุ้นประเทศเกิดใหม่ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า การบริโภคภายในประเทศขยายตัวแข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจเพิ่มสูงขึ้น โครงการลงทุนจากภาคเอกชนเติบโตต่อเนื่อง รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยยังคงเติบโตได้ดี โดยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสแรกเติบโต 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อนหน้านี้ และคาดว่าผลประกอบการทั้งปีจะเติบโตประมาณ 15-20% ถึงแม้ในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยจะยังคงมีความผันผวนอยู่จากปัจจัยภายนอกที่อาจเข้ามากระทบ เช่น การชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนของมาตรการควบคุมการแข็งค่าของเงินบาท และความกังวลเกี่ยวกับการยกเลิก QE แต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติของตลาดหุ้นที่จะมีช่วงระยะเวลาของการปรับฐาน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยได้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555 เป็นระยะเวลาประมาณ 10 เดือน และเริ่มมีการปรับตัวลดลงในช่วงเดือน เม.ย. 56 ก่อนที่จะฟื้นตัวอีกครั้งเมื่อต้นเดือน พ.ค. และเริ่มปรับลดลงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่ตลาดปรับฐานนี้ถือเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุนกับบริษัทที่ดีในราคาที่เหมาะสม และเป็นโอกาสให้กองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมายได้เร็วขึ้น
โดย บลจ.เปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 4% พลัส 4% ทริกเกอร์ พลัส 1 (KFEQ4P4-P1) อายุโครงการประมาณ 8 เดือน ระหว่างวันที่ 6-12 มิ.ย. 56 ตั้งเป้าจ่ายผลตอบแทนเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นรวมกันประมาณ 8%
บลจ.ยูโอบีมองกรอบหุ้นไทยที่ 1,700 จุด
ด้านนายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. ยูโอบี (ไทย) จำกัด กล่าวว่า จากปัจจัยกดดันทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวนในระยะสั้น แต่ในระยะยาวยังเห็นปัจจัยสนับสนุน คาดการณ์ SET Index มีโอกาสขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในปีนี้ที่ 1,700 จุด การเสนอขายกองทุนหุ้นไทยUOBT14 ในช่วงนี้น่าจะตอบโจทย์นักลงทุนที่ต้องการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นไทย ซึ่งบริหารเงินลงทุนโดยให้ผู้จัดการที่มีความเชี่ยวชาญ
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์ที่ผ่านมามีปัจจัยกดดันจากต่างประเทศคืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั้งสหรัฐฯ และญี่ปุ่นที่ปรับตัวสูงขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่ามาตรการ QE อาจยุติเร็วกว่าที่กำหนดไว้ ส่วนปัจจัยภายในประเทศ ตัวเลขส่งออกของไทยขยายตัวต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ ในขณะที่ กนง.ยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนต่อการจัดการค่าเงินบาท ด้วยแรงกดดันดังกล่าวจึงเป็นปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นไทยในขณะนี้
ทั้งนี้ แม้จะมีปัจจัยกดดันตลาดอย่างต่อเนื่อง บลจ.ยูโอบีมีมุมมองว่าขณะนี้เป็นจังหวะที่ดีต่อการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากยังเห็นสัญญาณที่ดีจากการที่ตลาดหุ้นไทยยังคงได้รับความสนใจเป็นอย่างดีจากนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในปี 2556-2557 โดยคาดว่าจะเติบโตได้ที่ระดับ 4.7-5.0% นำโดยภาคการบริโภคในประเทศที่ยังคงแข็งแกร่ง และคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยจะยังคงเติบโตได้ในระดับ 25% ในปี 2556 และ 12% ในปี 2557 จึงถือเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตทางกำไรสูงสุดในเอเชีย และกลุ่มประเทศเกิดใหม่ อีกทั้งธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงมาตรการผ่อนคลายทางการเงินโดยการคงดอกเบี้ยในระดับต่ำเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักในการลงทุนในตลาดหุ้นไทย
โดย บลจ.ได้เปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ยูโอบี ทริกเกอร์ ฟันด์ 14 (UOBT14) อัตราผลตอบแทนเป้าหมาย 7% ภายในระยะเวลา 1 ปี เสนอขาย 5-7 มิ.ย. 56
ด้านนายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อตอบโจทย์การลงทุนในจังหวะเวลาที่เหมาะสม บลจ.ทิสโก้ จึงเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% # 8 ซึ่งเป็นกองทาร์เก็ตฟันด์ที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 8% เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ชอบลงทุนในหุ้นไทย และสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนได้ ทั้งนี้กองทุนไม่มีกำหนดอายุโครงการ โดยจะเลิกกองทุนเมื่อสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% หรือมีมูลค่าหน่วยลงทุน มากกว่าหรือเท่ากับ 10.80 บาท ไอพีโอ 6 - 11 มิ.ย. 56
“การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยในช่วงนี้ถือว่ามีการปรับตัวลงตามตลาดโลก โดยบลจ.ทิสโก้ มองว่าการปรับฐานของตลาดหุ้นไทยในครั้งนี้เป็นโอกาสในการเข้าลงทุน เพราะโดยภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ปัจจัยพื้นฐานในประเทศยังเป็นไปในทิศทางที่ดี และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนน่าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง ทำให้ตลาดหุ้นไทยยังคงมีปัจจัยบวกที่คอยสนับสนุน นอกจากทิศทางการปรับตัวของดัชนีฯ ที่ยังสามารถเติบโตได้อีกนั้น เราเชื่อว่าความสามารถในการคัดเลือกหุ้นพื้นฐานดีและมีโอกาสเติบโตในอนาคต โดยใช้ทีมผู้จัดการกองทุนหุ้นที่มีประสบการณ์ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ เรามั่นใจว่าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้"
สำหรับ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% # 8 ซึ่งถือได้ว่าอยู่ในซีรี่ย์กองทุนเปิดทริกเกอร์ ที่ บลจ.ทิสโก้ เคยสร้างผลงานบริหารกองทุนทริกเกอร์หุ้นไทยได้ตามเป้าหมายทุกกองทุน โดยเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน บลจ.ทิสโก้ได้โชว์ผลงาน บริหาร กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% กองที่ 7 เข้าเป้าหมาย สามารถสร้างผลตอบแทนตามเป้าหมาย 8% โดยใช้เวลาบริหารกองทุนเพียง 7 สัปดาห์เท่านั้น ดังนั้น สำหรับผู้ลงทุนที่มุ่งหวังที่จะสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีและมีการเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจของประเทศ ก็อาจจะพิจารณาลงทุนในกองทุนนี้ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น