xs
xsm
sm
md
lg

คาด SET วิ่งแตะ 1,700 จุด บลจ.ส่งทริกเกอร์ฟันด์ดักทำกำไร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ประสานเสียงหุ้นไทยยังไต่ระดับต่อไปเรื่อยๆ วางกรอบ 1,570-1,755 จุด ส่งกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ดักทำกำไรช่วงตลาดหุ้นพักฐาน

นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทยที่ค่อนข้างแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น หากเปรียบเทียบกับหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นมาแรงตั้งแต่ต้นปี มองได้ว่าเป็นการปรับฐานที่อาจจะใช้เวลาสั้นเพียงแค่ 4 วันเท่านั้น ซึ่งเกิดจากความกังวลของนักลงทุนต่อข่าวลือต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกมาตรการควบคุมเงินทุนไหลเข้า จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ความเสี่ยงทางด้านการเมืองที่อาจจะเกิดขึ้นได้ รวมถึงการขายทำกำไรของนักลงทุนรายใหญ่จำนวนมาก

ส่งผลให้มีการถูกบังคับขาย (Force sale) ของนักลงทุนที่ใช้บัญชีมาร์จิ้นเพื่อซื้อหลักทรัพย์ หลังราคาหุ้นปรับตัวลงมาถึงระดับที่ต้องถูกบังคับขายเพื่อตัดความเสียหายของนักลงทุนและบริษัทหลักทรัพย์ ถือเป็นจังหวะที่ดีที่จะเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นไทย เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนต่างๆ ในตลาดหลักทรัพย์ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานทางเศรษฐกิจไทยยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จากทางภาครัฐที่ไม่ได้เกิดขึ้นมานานตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง โดยเฉพาะงบ 2 ล้านล้านบาทที่กำลังจะเข้าสภาในเดือนเมษายนนี้ ที่เน้นการลงทุนระบบขนส่งในระบบรางเป็นหลัก จะเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจไปยังหัวเมืองในภูมิภาคต่างๆ การอุปโภคบริโภคภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น บริษัทจดทะเบียนต่างๆ สามารถขยายการลงทุน ส่งผลให้อัตราการเจริญเติบโตของผลกำไรขยายตัว

บริษัทฯ จึงได้กำหนดกลยุทธ์ในการลงทุนโดยมีการกำหนดกรอบการคัดสรรหุ้นให้สอดคล้องกับแนวโน้มและทิศทางการลงทุน (Theme) ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นดังที่ได้กล่าวไว้ในเบื้องต้น หุ้นที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ ได้แก่ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้าง กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งนี้บริษัทได้ให้เป้าหมายดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทย ณ สิ้นปี ที่ 1,755 จุด มี Upside ค่อนข้างมาก

ทั้งนี้ บลจ.ได้มีการเสนอขายกองทุน KT-TRIGGER11 ในวันที่ 29 มีนาคม - 9 เมษายน 2556 มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 8 เดือน นับแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม หรืออายุโครงการอาจต่ำกว่า 8 เดือน เมื่อกองทุนมีมูลค่าหน่วยลงทุนตั้งแต่ 11.1000 บาทขึ้นไป ของมูลค่าที่ตราไว้ที่ 10 บาท เป็นเวลา 3 วันทำการติดต่อกัน

ทางด้านนายจงรัก รัตนเพียร ประธานกรรมการบริหาร บลจ.กสิกรไทย กล่าวว่า เรายังคงมีมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยในแนวโน้มเชิงบวก แม้ในระยะสั้นจะมีความผันผวนจากปัจจัยภายนอกอยู่บ้างและมีการปรับตัวลงรุนแรงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาจากกระแสข่าวลือต่างๆ ผนวกกับปัจจัยภายนอกจากความกังวลในประเทศไซปรัส แต่เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะยังสามารถเติบโตต่อไปได้จากปัจจัยภายในประเทศโดยรวมที่ยังคงแข็งแกร่ง ทั้งในด้านการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยซึ่งยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่จะเติบโตถึง 4.80% ในปีนี้

ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยบวกจากนโยบายภาครัฐพร้อมแผนการ ใช้จ่ายในโครงการเมกะโปรเจ็กต์อีกราว 2 ล้านล้านบาท และแนวโน้มกำไรของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะเติบโตได้ถึง 20% เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยเติบโตต่อไปได้ สำหรับปัจจัยภายนอกจะเห็นได้ชัดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ด้านเศรษฐกิจจีนยังคงเติบโตได้อย่างดี ส่วนเศรษฐกิจยุโรปนั้น แม้จะมีประเด็นที่ต้องจับตาต่อไปแต่ก็ไม่ถือว่าเป็นปัจจัยใหม่ เพราะส่วนใหญ่ตลาดได้รับรู้ไปแล้ว

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังคงเป้าหมายดัชนี SET Index ที่1,570 และอาจจะพิจารณาปรับเป้าหมายนี้ขึ้นไปอีก เนื่องจากมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากเม็ดเงินลงทุนไหลเข้าและสภาพคล่องในตลาดที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงนับว่าเป็นจังหวะที่ผู้ที่ต้องการเข้าลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจจากตลาดหุ้นไทยได้ในอนาคต โดยบลจ.กำลังเปิดขายกองทุนเปิดเค ไทย เฟล็กซิเบิล อิควิตี้ ทริกเกอร์ 1 (KTFET1) ในวันที่ 27-29 มีนาคม 2556 โดยกองทุนดังกล่าวมีมูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท อายุประมาณ 3 ปี มีนโยบายที่สามารถกระจายการลงทุนไปในหุ้นได้ตั้งแต่ 0-100% พร้อมกำหนดเป้าหมายทริกเกอร์ (Trigger) ใน 1 ปีแรกให้ผู้ถือหน่วยลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนประมาณ 8%

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บลจ.ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยที่ผ่านมามีการปรับตัวลงค่อนข้างแรง จากแรงเทขายในสัปดาห์ก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม บลจ.ทิสโก้ มองว่าการปรับฐานของตลาดหุ้นไทยในครั้งนี้เป็นโอกาสในการเข้าลงทุน เพราะปัจจัยพื้นฐานในประเทศเป็นไปในทิศทางที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งทั้งภาคการลงทุน การบริโภคภายในประเทศ ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่เติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้การที่สภาพคล่องจากต่างประเทศที่ไหลเข้ามาลงทุน ล้วนแต่เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทย โดย บลจ.ทิสโก้มองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นแตะ 1,700 จุด โดยประมาณ ทั้งนี้ บลจ.กำลังเปิดขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% โดยจะเปิดจองซื้อครั้งแรก 27-29 มี.ค. 55 ตั้งเป้าผลตอบแทน 8%

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี กล่าวว่า บริษัทมีมุมมองว่าทิศทางของตลาดหุ้นไทยยังเป็นขาขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้าแม้ในระยะสั้นตลาดจะมีความผันผวนอยู่บ้าง และการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ถือเป็นจังหวะการเข้าลงทุนที่เหมาะสม เนื่องจากราคาหลักทรัพย์มีการปรับฐานลงมาบ้างถือเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี และมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูง ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลายประการทั้งในส่วนของแนวโน้มเงินลงทุนทั่วโลกไหลเข้าตลาดหุ้นประเทศเกิดใหม่ เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตจากการลงทุนของภาครัฐซึ่งมีมูลค่าประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท การบริโภคภายในประเทศเติบโตต่อเนื่อง และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีแนวโน้มเติบโตดี รวมทั้งแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า ส่งผลให้การลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ โดยบริษัทกำลังเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 4% พลัส 4% ทริกเกอร์4 (KFEQ4P4-4) ตั้งเป้าผลตอบแทนโดยรวม 8% ในระยะเวลา 8 เดือนเสนอขายครั้งเดียวระหว่างวันที่ 27 มี.ค. - 2 เม.ย. 56


กำลังโหลดความคิดเห็น