กองทริกเกอร์ฟันด์ฮอต บลจ.ไอพีโอลุ้นหุ้นไทย-จีน

กองทุนทริกเกอร์ฟันด์ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า 3 บลจ. เอ็มเอฟซี กรุงศรี และทิสโก้ เปิดขายไอพีโอต่อเนื่องรองรับดีมานด์ มั่นใจตลาดหุ้นไทย-จีนแข็งแกร่งรับเศรษฐกิจเติบโต

นางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยที่ยังคงขยายตัวจากการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาครัฐ ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจจะยังขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 4.5-5.0% และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยังคงแข็งแกร่ง คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ 13-15% ในปีนี้ ตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะยังได้ประโยชน์จากเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศ ถึงแม้ว่าค่า P/E ใกล้เคียงกับภูมิภาค แต่ตลาดหุ้นไทยมีความน่าสนใจลงทุนจากการขยายตัวของกำไรที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับตลาดอื่นในภูมิภาค

โดย บลจ.กำลังเปิดขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซีสปอท 33 ซีรี่ส์ 5 (SPOT33S5) เปิดขายตั้งแต่วันนี้ถึง 30 มกราคม 2556 โดยจะเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในตลาดหลักทรัพย์ไทยเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า อีกทั้งในปีนี้ยังคงเป็นโอกาสเหมาะสมต่อการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยที่ขยายตัวจากกำไรที่สูง ตลอดจนเศรษฐกิจไทยที่ยังคงขยายตัวได้ดี นอกจากนี้แล้ว เอ็มเอฟซียังบริหารกองทุนเปิด SPOT33 ซีรี่ส์ 2 และ 3 เข้าเป้าหมายร้อยละ 3 ครั้งที่หนึ่ง และจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทั้งสองกองทุน โดยรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเพื่อเข้ากองทุนเปิด MM-GOV ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน ณ วันที่ 28 มกราคมนี้

ขณะที่นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี จำกัด กล่าวว่า เราเชื่อมั่นว่าตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจเพราะมีปัจจัยบวกที่สนับสนุนหลายประการ เช่น แนวโน้มเงินลงทุนทั่วโลกไหลเข้าตลาดหุ้นประเทศเกิดใหม่ เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตจากการลงทุนของภาครัฐซึ่งมีมูลค่าประมาณ 2.2 ล้านล้านบาท การบริโภคภายในประเทศเติบโตต่อเนื่องและได้รับแรงหนุนจากการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท การปรับลดอัตราภาษีเงินได้จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มีแนวโน้มเติบโตดี รวมทั้งแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในระดับต่ำไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า ส่งผลให้การลงทุนในตลาดหุ้นได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ บลจ.กำลังเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 4%พลัส4%ทริกเกอร์3 (KFEQ4P4-3) ต่อทันที โดยเสนอขายครั้งเดียวระหว่างวันที่ 29 ม.ค.-5 ก.พ. 56 อายุโครงการประมาณ 8 เดือน

ทางด้านนายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บลจ.ทิสโก้ กล่าวว่า เรามองว่ าตลาดหุ้นจีนถือเป็นตลาดหุ้นที่น่าสนใจลงทุนมากที่สุดในโลกในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่โดดเด่น อีกทั้งราคาหุ้นยังถูกที่สุดในภูมิภาคเอเชีย และเป็นตลาดที่สภาพคล่องที่ล้นระบบจากการอัดฉีดเม็ดเงินในประเทศต่างๆ ไหลเข้ามากที่สุด ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดหุ้นสามารถเติบโตขึ้นไปได้อีก ดังนั้นการลงทุนซึ่งมีการผสมหุ้นจีนอยู่ด้วยนั้นจึงนับเป็นทางเลือกที่จะช่วยสร้างผลตอบแทนในพอร์ตการลงทุนได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม บลจ.กำลังเปิดขายกองทุนเปิด ทิสโก้ สเปเชี่ยล โบนัส 2F ซึ่งเป็นกองทุนรวมผสม โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายเน้นการลงทุนในตราสารแห่งหนี้ เงินฝากในประเทศและหรือต่างประเทศ และที่เหลือจะลงทุนในหุ้นจีนไม่เกิน 25% ผ่านกองทุน Hang Seng H-Share Index ETF โดยมีอายุโครงการประมาณ 1 ปี หรือสามารถเลิกกองทุนก่อนครบกำหนดอายุโครงการหากสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 6%โดยจะเสนอขายครั้งเดียว (ไอพีโอ) ตั้งแต่ 29 ม.ค.-6 ก.พ. 2556