กระแสกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ยังมาแรง บลจ.ทิสโก้เปิดขายกองทุน “ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% # 7” ลุยหุ้นจีน หลังซีรีส์ 6 ขายได้เพียง 4 วันยอดจองซื้อเต็มมูลค่าโครงการ ด้าน บลจ.เอ็มเอฟซีโชว์ฟอร์มบริหารทาร์เกตฟันด์ SPOT55 และ SPOT 33 เข้าเป้าหมาย ขณะที่ บลจ.ฟินันซ่า กองหุ้นทริกเกอร์ 8% เข้าเป้าเช่นกัน
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บลจ. ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า หลังจากเปิดขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% # 6 ได้เพียง 4 วันก็มียอดจองซื้อกองทุนดังกล่าวเต็มมูลค่าโครงการ ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะความโดดเด่นของผลงานการบริหารกองทุน รวมถึงการให้บริการด้านการเป็นที่ปรึกษาการลงทุนของทิสโก้ รวมถึงการมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่คอยประเมินข้อมูลเศรษฐกิจรอบด้าน และมีทีมกลยุทธ์การลงทุน หรือ Wealth Strategist จากทิสโก้ เวลธ์ คอยจับจังหวะการลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้แก่ลูกค้า
โดยทิสโก้เป็นเจ้าแรกๆ ที่ให้มุมมองเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้นจีนว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน พร้อมได้มีการนำเสนอกองทุนที่ตอบโจทย์ดังกล่าวผ่านกองทุนดังกล่าว ซึ่งผลงานที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยกองทุนดังกล่าวสามารถปิดกองได้ก่อนครบอายุโครงการและสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมาย
ด้านนางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทบริหารทาร์เกตฟันด์ที่มีกลยุทธ์ลงทุนในตราสารทุนในประเทศถึงสองกองทุน ได้เป้าหมายผลตอบแทนที่ตั้งไว้ คือ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สปอท 55 ได้ผลตอบแทน 10% และเข้าเงื่อนไขการเลิกกองทุน โดยใช้เวลาบริหารกองทุนเพียง 2 เดือนเศษ ซึ่งได้แบ่งจ่ายผลตอบแทนครั้งแรก 5% ไปเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ขณะที่กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สปอท 33 เข้าเป้าหมายผลตอบแทนครั้งที่หนึ่ง 3% ภายในเวลาเพียงเดือนเศษ โดยเอ็มเอฟซีได้จ่ายผลตอบแทนคืนผู้ถือหน่วยลงทุนของทั้งสองกองทุนแล้วเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา
“ในปีนี้คาดว่า GDP จะขยายตัวอยู่ที่ระดับ 4.5-5.0% และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยังคงแข็งแกร่ง และจะสามารถเติบโตได้ 17% ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้กองทุนเปิด SPOT33 มีโอกาสเติบโตและเข้าเป้าหมายผลตอบแทนร้อยละ 3 ครั้งที่สองต่อไป”
ขณะที่ นายสุรสีห์ จงไชโย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ฟินันซ่า จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่กองหุ้นทริกเกอร์ 8% ของ บลจ.ฟินันซ่า ซึ่งจัดตั้งเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 55 ถึงเป้าหมาย 8% ตั้งแต่วันศุกร์ 4 ม.ค. 56 ที่ผ่านมาว่า “กองนี้ เข้าเป้าเร็วตามที่เราคาด เพราะเราเลือกหุ้นถูกตัว และลงทุนได้ถูกจังหวะ พอร์ตนี้เราเน้นหุ้นที่อิงอุปสงค์ในประเทศ เช่น กลุ่มอสังหาฯ และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง”
สำหรับมุมมองหุ้นไทยปีนี้มองว่า SET ยังคงได้รับอานิสงส์จากกระแส Fund Flow ที่เข้ามาลงทุนในภูมิภาคนี้ ซึ่งหุ้นไทยยังไปต่อได้ โดยเราประเมินที่ประมาณ 1,471 จุด และอาจจะมีผันผวนบ้างระดับหนึ่งในช่วงครึ่งปีแรกจากแรงขายทำกำไรอาจเกิดขึ้นเป็นระยะๆ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ถือว่าพื้นฐานหุ้นไทยยังไม่น่ากลัวเท่ากับช่วงก่อนปี 2540 เพราะพื้นฐานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนยังคงขยายตัว กอปรกับได้รับผลบวกจากมาตรการลดภาษีนิติบุคคล และผลสืบเนื่องจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศของรัฐบาล
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บลจ. ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า หลังจากเปิดขายกองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% # 6 ได้เพียง 4 วันก็มียอดจองซื้อกองทุนดังกล่าวเต็มมูลค่าโครงการ ทั้งนี้น่าจะเป็นเพราะความโดดเด่นของผลงานการบริหารกองทุน รวมถึงการให้บริการด้านการเป็นที่ปรึกษาการลงทุนของทิสโก้ รวมถึงการมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่คอยประเมินข้อมูลเศรษฐกิจรอบด้าน และมีทีมกลยุทธ์การลงทุน หรือ Wealth Strategist จากทิสโก้ เวลธ์ คอยจับจังหวะการลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนให้แก่ลูกค้า
โดยทิสโก้เป็นเจ้าแรกๆ ที่ให้มุมมองเกี่ยวกับการลงทุนในตลาดหุ้นจีนว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน พร้อมได้มีการนำเสนอกองทุนที่ตอบโจทย์ดังกล่าวผ่านกองทุนดังกล่าว ซึ่งผลงานที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยกองทุนดังกล่าวสามารถปิดกองได้ก่อนครบอายุโครงการและสร้างผลตอบแทนได้ตามเป้าหมาย
ด้านนางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทบริหารทาร์เกตฟันด์ที่มีกลยุทธ์ลงทุนในตราสารทุนในประเทศถึงสองกองทุน ได้เป้าหมายผลตอบแทนที่ตั้งไว้ คือ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สปอท 55 ได้ผลตอบแทน 10% และเข้าเงื่อนไขการเลิกกองทุน โดยใช้เวลาบริหารกองทุนเพียง 2 เดือนเศษ ซึ่งได้แบ่งจ่ายผลตอบแทนครั้งแรก 5% ไปเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ขณะที่กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สปอท 33 เข้าเป้าหมายผลตอบแทนครั้งที่หนึ่ง 3% ภายในเวลาเพียงเดือนเศษ โดยเอ็มเอฟซีได้จ่ายผลตอบแทนคืนผู้ถือหน่วยลงทุนของทั้งสองกองทุนแล้วเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2556 ที่ผ่านมา
“ในปีนี้คาดว่า GDP จะขยายตัวอยู่ที่ระดับ 4.5-5.0% และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ยังคงแข็งแกร่ง และจะสามารถเติบโตได้ 17% ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้กองทุนเปิด SPOT33 มีโอกาสเติบโตและเข้าเป้าหมายผลตอบแทนร้อยละ 3 ครั้งที่สองต่อไป”
ขณะที่ นายสุรสีห์ จงไชโย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ฟินันซ่า จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่กองหุ้นทริกเกอร์ 8% ของ บลจ.ฟินันซ่า ซึ่งจัดตั้งเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 55 ถึงเป้าหมาย 8% ตั้งแต่วันศุกร์ 4 ม.ค. 56 ที่ผ่านมาว่า “กองนี้ เข้าเป้าเร็วตามที่เราคาด เพราะเราเลือกหุ้นถูกตัว และลงทุนได้ถูกจังหวะ พอร์ตนี้เราเน้นหุ้นที่อิงอุปสงค์ในประเทศ เช่น กลุ่มอสังหาฯ และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง”
สำหรับมุมมองหุ้นไทยปีนี้มองว่า SET ยังคงได้รับอานิสงส์จากกระแส Fund Flow ที่เข้ามาลงทุนในภูมิภาคนี้ ซึ่งหุ้นไทยยังไปต่อได้ โดยเราประเมินที่ประมาณ 1,471 จุด และอาจจะมีผันผวนบ้างระดับหนึ่งในช่วงครึ่งปีแรกจากแรงขายทำกำไรอาจเกิดขึ้นเป็นระยะๆ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ถือว่าพื้นฐานหุ้นไทยยังไม่น่ากลัวเท่ากับช่วงก่อนปี 2540 เพราะพื้นฐานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนยังคงขยายตัว กอปรกับได้รับผลบวกจากมาตรการลดภาษีนิติบุคคล และผลสืบเนื่องจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศของรัฐบาล