บลจ.ตบเท้าเข็นกองทุนทริกเกอร์ บลจ.กรุงศรีจับจังหวะตลาดส่งกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 8% ทริกเกอร์ 3 ด้าน บลจ.ทิสโก้คว้าจังหวะเปิดขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% # 5” ลุยตลาดหุ้นจีน หลังเศรษฐกิจเติบโตโดดเด่น ชูผลตอบแทน 8% จูงใจนักลงทุน ขณะที่ บลจ.ยูโอบีออกกองทุนเปิด ยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ 9 และกองทุนเปิด ยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ เพื่อการเลี้ยงชีพ 2 สำหรับท่านที่กำลังมองหาตั้งเป้าผลตอบแทน 7% ใน 1 ปีทั้ง 2 กองทุน
นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะเปิดขายกองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 8% ทริกเกอร์ 3 (KFEQ8-3) โดยเสนอขายครั้งเดียวระหว่างวันที่ 15-21 พ.ย. 55
“กองทุนเปิดกรุงศรีอิควิตี้ 8% ทริกเกอร์3 (KFEQ8-3) อายุโครงการประมาณ 8 เดือน มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยคัดเลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีมีแนวโน้มการเติบโตสูง และจ่ายปันผลดี หรือหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภายในประเทศเป็นหลัก กองทุน KFEQ8-3 ตั้งเป้าจ่ายผลตอบแทนเมื่อหน่วยลงทุนมีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณ 8% ขึ้นไป คือมูลค่าหน่วยลงทุนเท่ากับหรือมากกว่า 10.91 บาทต่อหน่วยต่อเนื่องกัน 5 วันทำการ หรือตามมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันที่ครบอายุโครงการ ทั้งนี้ บริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป”
นายฉัตรพีกล่าวเสริมว่า “บริษัทมีมุมมองว่าทิศทางของตลาดหุ้นไทยยังเป็นขาขึ้นในช่วง 12 เดือนข้างหน้า แม้ในระยะสั้นตลาดจะมีความผันผวนอยู่บ้าง และการเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้ถือเป็นจังหวะการเข้าลงทุนที่เหมาะสม เนื่องจากราคาหลักทรัพย์มีการปรับฐานลงมาบ้างถือเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นปัจจัยพื้นฐานดีในราคาถูกและมีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูง ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยสนับสนุนหลายประการทั้งในส่วนของเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้าประเทศตลาดเกิดใหม่ และเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตจากการลงทุนของภาครัฐที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปี 2556
ด้านนายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% # 5” กองทาร์เกตฟันด์ ลงทุนในหุ้นจีน โดยจะลงทุนผ่านกองทุนอีทีเอฟต่างประเทศ ได้แก่กองทุน Lyxor ETF China Enterprise (HSCEI) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ซึ่งมีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Hang Seng China Enterprise โดยตั้งเป้าหมายผลตอบแทนไว้ที่ 8% มีอายุโครงการประมาณ 8 เดือน หรือสามารถเลิกโครงการก่อนครบกำหนดอายุโครงการหากสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% หรือ NAV มีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.80 บาท
บริษัทระบุว่ายังมีมุมมองเป็นบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้น เนื่องจากยังเป็นการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้ผู้ลงทุนในระดับที่น่าพึงพอใจ ทั้งนี้ จากข้อมูลการลงทุนในตลาดหุ้นเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา พบว่าเม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย โดยประเทศที่มีแรงซื้อเข้ามากที่สุดคือตลาดหุ้นจีน โดยปริมาณเม็ดเงินที่ไหลเข้าตลาดหุ้นจีนปรับสูงขึ้น ทำให้ตลาดหุ้นจีนเป็นตลาดที่สร้างผลตอบแทนเป็นอันดับต้นๆ ของโลก (Top Performer) โดยคาดว่าตลาดหุ้นจีนจะมีเม็ดเงินไหลเข้าเป็นจำนวนมาก และมีทิศทางที่เป็นบวกอย่างต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ ดังนั้น TISCO Wealth ยังคงแนะนำการลงทุนในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) โดยเน้นที่ตลาดหุ้นจีน
ขณะที่นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ยูโอบี (ไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในกองทุนประเภทมีผลตอบแทนตามเป้าหมาย บลจ.ยูโอบีเล็งเห็นโอกาสที่จะเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยในตอนนี้ จากปัจจัยสนับสนุนภายในประเทศที่จะทำให้สามารถสร้างโอกาสรับอัตราผลตอบแทนให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ จึงออกกองทุนเปิด ยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ 9 (UOBSS9) ที่เป็นการลงทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนตามเป้าหมาย และกองทุนเปิด ยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ เพื่อการเลี้ยงชีพ 2 (UOBSSRMF2) สำหรับท่านที่กำลังมองหาการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีในช่วงสิ้นปีภาษีนี้อีกด้วย โดยตั้งเป้าผลตอบแทน 7% ใน 1 ปีทั้ง 2 กองทุน
โดยในส่วนของกองทุนเปิด ยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ เพื่อการเลี้ยงชีพ 2 ถ้าผลงานถึงเป้าหมาย บริษัทจัดการจะดำเนินการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติไปยังกองทุนเปิด ยูโอบี ออมทรัพย์เพื่อการเลี้ยงชีพ แต่หากผลงานไม่ถึงเป้าหมายจะดำเนินการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนอัตโนมัติไปยังกองทุนเปิด ยูโอบี ตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ
บลจ.ยูโอบียังมีมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยในด้านบวก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากผลประกอบการของธุรกิจที่ดีในไตรมาสที่ 3 อีกทั้งความคาดหวังจากเม็ดเงินกองทุนประหยัดภาษีที่จะเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่เหลือของปีจะช่วยสนับสนุนตลาดหุ้นไทยได้ จึงนับว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทย
“เราคาดว่า 2 กองทุนประเภทที่มีผลตอบแทนเป้าหมายนี้จะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีเช่นเดียวกับกองทุนที่ผ่านมา เรายังคงติดตามภาวะตลาด ทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยเสี่ยงอย่างใกล้ชิด เพื่อแสวงหาโอกาสการลงทุนและผลตอบแทนให้เป็นไปตามเป้าหมาย” นายวนากล่าว