xs
xsm
sm
md
lg

แนะลงทุนตลาดเกิดใหม่ เศรษฐกิจหนุนแถมหุ้นราคาถูก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.กรุงศรีมั่นใจศักยภาพการเติบโตหุ้นตลาดเกิดใหม่ยังมีสูง ส่งกองทุน “กรุงศรีอีเมอร์จิ้นมาร์เก็ตอิควิตี้” ลุยลงทุนหุ้นตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก ด้าน บลจ.ทิสโก้แนะลงทุนหุ้นจีน เหตุราคาถูก แถมปัจจัยบวกจากการเปลี่ยนผู้นำใหม่ช่วงเดือนตุลาคม 55-มีนาคม 56

นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงศรี จำกัด เปิดเผยว่า เราเชื่อมั่นว่าการเติบโตของตลาดเกิดใหม่ในระยะยาวยังคงแข็งแกร่ง แม้จะมีความไม่แน่นอนทางการเมือง แต่เชื่อว่าอินเดียจะสามารถพัฒนระบบต่างๆ ในประเทศที่ยังไร้ประสิทธิภาพได้ดีขึ้นในอนาคต และในเบื้องหลังข่าวด้านลบต่างๆ ในประเทศอินเดีย ประชากรยังคงมีรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน

ขณะที่ทางการจีนตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจใน 5 ปีข้างหน้าที่ระดับ 7.5% ต่อปี โดยพยายามลดอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์และเพิ่มการบริโภคในประเทศ

โดย บลจ.มองเห็นถึงศักยภาพขอประเทศเกิดใหม่ทั่วโลกที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจและมูลค่าตลาดหุ้นเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง มีหุ้นที่มีคุณภาพให้เลือกลงทุนจำนวนมาก อัตราการบริโภคในประเทศอยู่ในระดับสูงและประชากรมีรายได้ที่สูงขึ้น มีสัดส่วนหนี้สินภาครัฐต่อจีดีพีในระดับต่ำและมีแนวโน้มลดลง นอกจากนี้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศพัฒนาแล้ว รวมถึงมีอันดับความน่าเชื่อถือเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

“เรามองว่ากลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีตราสินค้าในตลาดเกิดใหม่ยังคงให้ผลประกอบการที่ดี โดยกลุ่มที่เรามองว่าควรจะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนคือ consumer staples ส่วนกลุ่มที่ควรจะลดการลงทุนคือ Energy และ Materials” นายประภาสกล่าว

นายประภาส กล่าวต่อว่า โดยระหว่างวันที่ 10-17 ตุลาคมนี้บลจ.จะเปิดขายกองทุนเปิดกรุงศรีอีเมอร์จิ้นมาร์เก็ตอิควิตี้เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในประเทศเกิดใหม่ โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก Vontobel-Emerging Makets Equity Fund,Class I USD เฉลี่ยรอบปีไม่ต่ำกว่า 80% ของมูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิต่อปี โดยกองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นซึ่งออกโดยบริษัทในประเทศตลาดเกิดใหม่ ซึ่งดำเนินธุรกิจหลักอยู่ในประเทศตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก เช่น บราซิล เม็กซิโก แอฟริกาใต้ จีน อินเดีย มาเลเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และฮ่องกง เป็นต้น

สำหรับกองทุน Vontobel-Emerging Makets Equity Fund, Class I USD นั้นจะลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีศักยภาพการเติบโตสูงและมีเสถียรภาพ ณ ราคาที่เหมาะสม ภายใต้การบริหารจัดการของทีมผู้จัดการกองทุนที่มีประสบการณ์ยาวนานและมีกระบวนการลงทุนที่ชัดเจน ที่ผ่านมากองทุนสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าบนความผันผวนที่ต่ำกว่า เห็นได้จากที่กองทุนหลักและทีมผู้จัดการกองทุนได้รับรางวัลจากสถาบันต่างๆ ที่ได้รับการยอมรับระดับสากล เช่น Mormingstar Sauren เป็นต้น พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณภาพของกองทุนและความสามารถในการบริหารจัดการของผู้จัดการกองทุนเป็นอย่างดี

ทิสโก้แนะลุยหุ้นจีน

นางสาววรสินี สังวรเวชภัณฑ์ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ทิสโก้ เวลธ์ เปิดเผยว่า สำหรับกลยุทธ์การจัดสรรการลงทุนในเดือนนี้บริษัทมองว่าการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงยังมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะตลาดหุ้น เนื่องจากสภาพคล่องที่ล้นตลาดจากการอัดฉีดเม็ดเงินของธนาคารกลางทั้งสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และยุโรป จะเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาหุ้น โดยเฉพาะหุ้นในตลาดเกิดใหม่ที่ได้รับผลบวกจากแนวโน้มค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักของโลก เช่น ดอลลาร์สหรัฐ และเยน โดยนอกเหนือจากสภาพคล่องที่ล้นระบบแล้ว ปัจจุบันราคาหุ้นทั่วโลกนับว่าถูกเมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา รวมทั้งอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่าการฝากเงิน ดังนั้น การลงทุนตลาดหุ้นจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการลงทุนตอนนี้

โดยบริษัทแนะนำให้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ไม่รวมญี่ปุ่น (Asia Pacific ex Japan) ซึ่งเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีกว่าภูมิภาคอื่นๆ เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่อุปสงค์แข็งแกร่งภายในภูมิภาคด้วยกันเอง มีดุลบัญชีฯ เกินดุล มีปริมาณเงินสำรองสูง และมีหนี้สาธารณะต่อ GDP ในระดับต่ำ ตลอดจนมีนโยบายการเงินการคลังที่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน และความสามารถทางการแข่งขันทางการค้าอยู่ในระดับสูง อีกทั้งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เริ่มปรับเพิ่มประมาณการผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นเอเชียมากขึ้น หลังจากในช่วงครึ่งปีแรกมีการปรับลดลง ซึ่งการปรับเพิ่มนี้เป็นผลจากการที่นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลต่อปัญหาในยุโรป และสหรัฐฯ และมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นในการกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกทั้งหมด TISCO Wealth มองว่าตลาดหุ้นจีนยังมีความน่าสนใจ โดยหุ้นจีนมีราคาถูกทั้งในแง่ของ P/E และ P/BV ดังนั้นจึงคาดว่าจีนจะเป็นเป้าหมายต้นๆ ของการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ยังคาดว่าการเปลี่ยนผู้นำจีนในช่วงเดือน ต.ค. 55-มี.ค. 56 จะส่งผลให้มีเม็ดเงินไหลเข้ากระตุ้นเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นที่ไม่แนะนำให้ลงทุน หรือลดสัดส่วนการลงทุน คือ ตลาดหุ้นในกลุ่มยุโรปตะวันออก และตลาดหุ้นละตินอเมริกา โดยสำหรับกลุ่มยุโรปตะวันออกนั้น คาดว่าปัญหาทางยุโรปจะยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างเบ็ดเสร็จ และคาดว่าจะมีปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบต่อการลงทุนเป็นระยะๆ แม้ความกังวลที่มากสุดได้ผ่านพ้นไปแล้วในช่วงเลือกตั้งของกรีซ แต่ปัญหาที่เรื้อรังต่อเศรษฐกิจยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ในทุกครั้งที่ประเทศในกลุ่ม PIIGS ถึงกำหนดชำระหนี้ หรือมีข่าวในเชิงลบ เช่นการลดอันดับความน่าเชื่อถือ, ปัญหาของสถาบันการเงินที่ต้องการความช่วยเหลือ

นอกจากนี้ TISCO Wealth ยังไม่แนะนำให้ลงทุนในตลาดหุ้นละตินอเมริกา โดยถึงแม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจของละตินอเมริกามีสัญญาณที่เป็นบวก แต่เมื่อเทียบกับกลุ่มตลาดเกิดใหม่ด้วยกัน ละตินอเมริกายังเป็นภูมิภาคที่เติบโตต่ำกว่ากลุ่ม


กำลังโหลดความคิดเห็น