xs
xsm
sm
md
lg

กบข.ดึง 5 บลจ.บริหารพอร์ต ย้ำดูผลงานมากกว่าค่าธรรมเนียม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โสภาวดี เลิศมนัสชัย
กบข.จ้าง 5 บลจ.บริหารพอร์ตหุ้น-ตราสารหนี้ในประเทศกว่า 3.3 หมื่้นล้าน เชื่อช่วยเพิ่มความหลากหลายได้อย่างดี ระบุเน้นคัดผลงานมากกว่าค่าธรรมเนียม ด้าน ผอ.ฝ่ายลงทุนต่างประเทศเผยยังไม่ปรับสัดส่วนหุ้นเต็มเพดาน แต่อนาคตอาจเป็นไปได้ มั่นใจการลงทุนต่างประเทศช่วยกระจายความเสี่ยงจากตลาดหุ้นไทยได้

นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า กบข.ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ในประเทศ 5 แห่งเพื่อบริหารเงินลงทุนตราสารหนี้และหุ้นในประเทศมูลค่า 33,500 ล้านบาทเป็นเวลา 3 ปี

ทั้งนี้ บลจ.ทั้ง 5 แห่งจะแบ่งกันดูแลด้านการลงทุนหุ้นในประเทศและตราสารหนี้ในประเทศ แบ่งเป็น บลจ.กรุงศรี บลจ.ทิสโก้ บลจ.กสิกรไทย และ บลจ.วรรณ บริหารงานลงทุนหุ้นในประเทศ วงเงินลงทุนรวม 13,500 ล้านบาท และบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน 2 ราย บริหารเงินลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ บลจ.วรรณ และ บลจ.เอ็มเอฟซี เงินลงทุนรวม 20,000 ล้านบาท

สำหรับจุดเด่นที่ทำให้ทั้ง 5 บลจ.ได้รับการคัดเลือกบริหารเงินกองทุนของ กบข. คือ รูปแบบการลงทุนที่แตกต่างจาก กบข. เช่น พอร์ตการลงทุนตราสารทุน บลจ.กรุงศรี จะเน้นลงทุนหุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูง บลจ.ทิสโก้จะลงทุนหุ้นที่มีพื้นฐานดีในระยะยาว บลจ.กสิกรไทยเน้นลงทุนหุ้นที่มีพื้นฐานและอัตราการเติบโตดีในระยะกลาง 2-3 ปี และ บลจ.วรรณเน้นลงทุนหุ้นตามวัฏจักรอุตสาหกรรม ในขณะที่การลงทุนของ กบข.เน้นหุ้นในกลุ่ม SET50 ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่และมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ส่วน บลจ.ที่ได้รับเลือกให้บริหารเงินลงทุนตราสารหนี้ โดย บลจ.วรรณมีรูปแบบลงทุนโดยพิจารณาจากปัจจัยภาพรวมเศรษฐกิจ ร่วมกับความต้องการซื้อพันธบัตรของนักลงทุน (อุปสงค์) กับปริมาณการออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้ในตลาด (อุปทาน) ในขณะที่ บลจ.เอ็มเอฟซีเน้นการลงทุนในเชิงเปรียบเทียบมูลค่าของตราสารหนี้ (Relative Value) ซึ่งแตกต่างจาก กบข.ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาวที่มีคุณภาพดี ให้ผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยสูง และปรับกลยุทธ์การลงทุนตามการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ย

นายตรีพล ภูมิวสนะ ผู้อำนวยการฝ่ายลงทุนต่างประเทศ และผู้บริหารจัดการกองทุน กบข.กล่าวว่า การคัดเลือก บลจ.เพื่อเข้ามาดูแลเงินลงทุนภายในประเทศมิได้พิจารณาแต่ค่าธรรมเนียมที่ทาง บลจ.เสนอเท่านั้น แต่จะเน้นด้านผลงานเป็นหลักมากกว่า ซึ่งทาง กบข.จะให้กรอบขั้นต่ำเอาไว้ว่าผลงานของแต่ละบลจ.จะต้องไม่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานของตลาดหลักทรัพย์ในส่วนของตลาดหุ้น ส่วนค่าธรรมเนียมอาจมีการปรับเพิ่มขึ้นได้เช่นกันแต่จะต้องขึ้นอยู่กับผลงานว่าเป็นไปตามข้อตกลงหรือไม่

สำหรับ บลจ.ที่ได้รับเลือกให้ดูแลการลงทุนตราสารทุนปัจจุบันจะมีความชำนาญแตกต่งกัน ซึ่งนับเป็นการกระจายความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี เช่นบางแห่งชำนาญด้านการเลือกหุ้นปันผล แต่บางแห่งอาจชำนาญด้านการบริหารพอร์ตระยะยาว

ทั้งนี้ ปัจจุบัน กบข.มีการลงทุนในหุ้นอยู่ประมาณ 18% แบ่งเป็นหุ้นภายในประเทศ 9% และหุ้นต่างประเทศอีกประมาณ 9% โดยหลังจากนี้อาจมีการปรับเพิ่มการลงทุนในหุ้นอีกก็เป็นได้ เนื่องจาก กบข.สามารถลงทุนในหุ้นได้สูงสุดถึง 25% แต่คงจะต้องดูสถานการณ์ก่อนว่าจะปรับเพิ่มจังหวะใด

“ตอนนี้เรายังไม่มีแผนจะเพิ่มการลงทุนในหุ้น แต่ในอนาคตก็มีความเป็นไปได้เพราะเป้าหมายของเราต้องการบริหารเงินของสมาชิกให้ชนะเงินเฟ้อ และหุ้นก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจในการเพิ่มผลตอบแทนมากกว่าตราสารหนี้ในปัจจุบัน แต่คงจะต้องพิจารณาให้ดีก่อนที่จะลงทุน ส่วนผลกระทบในการลงทุนหุ้นในต่างประเทศที่ผ่านมาเรามีการปรับตลอด อย่างตอนนี้ยุโรปมีปัญหาเราก็จะเน้นลงทุนในเอเชียเป็นหลัก และความจริงการลงทุนหุ้นในต่างประเทศถือว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดี เพราะเราลงทุนหลายตลาดทำให้ความเสี่ยงน้อยกว่าลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างเดียว”


กำลังโหลดความคิดเห็น