xs
xsm
sm
md
lg

สรุปข่าวเด่นกองทุนดัง หุ้นเอเชียดาวเด่นปี 2013

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หวือหวาตั้งแต่ต้นปีทั้งหุ้นไทยและภูมิภาคเอเชียได้รับอานิสงส์จากเงินทุนไหลเข้ากันทั่วหน้า แต่ในส่วนของไทยโดนแรงเทขายทำกำไรไปบ้างทำให้มาร์เกตแคปที่ลุ้นให้ทะลุ 1.2 ล้านล้านยังต้องติดตามกันต่อไป เพราะยังมีหลายปัจจัยให้ต้องติดตาม แม้จะโล่งอกกันไปแล้วกับเรื่องหน้าผาการคลังของสหรัฐอเมริกา (Fiscal Cliff)

แว่วว่าอีกไม่กี่เดือนสหรัฐฯ เองยังต้องเผชิญกับการตัดลดงบประมาณที่จะต้องมีการพิจารณากัน นอกจากนี้ ปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปเองยังไม่มีทีท่าว่าจะจบลงได้อย่างรวดเร็ว เอาเป็นว่าคงต้องติดตามกันต่อไปว่าจะจบอย่างไร

แต่ที่ดูเหมือนจะจบเร็วกว่าเพื่อนคงเป็นละคร “เหนือเมฆ” ที่ถูกปลดกลางอากาศด้วยเหตุผลของเนื้อหาบางช่วงบางตอน (แทงใจนักการเมือง) ไม่เหมาะแก่การออกอากาศ...นึกแล้วขำเหตุผลห่วยๆ ที่นำมาอ้าง สงสัยคนไทยคงจะต้องดูแต่ละคร มุนินทร์ มุตตา และมุสาเท่านั้นเนื้อหาถึงจะเหมาะสม

เข้าเรื่องกันดีกว่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมาดูเหมือนหุ้นจะดีแล้ว วิวการลงทุนในภูมิภาคเอเชียยังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เริ่มต้นกับ บลจ.ทิสโก้ สาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวมบอกว่า ในปีนี้แนะนำให้ลงทุน คือ ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น (Asia Pacific ex. Japan) โดยจีนเป็นประเทศที่น่าสนใจลงทุนมากที่สุด เนื่องจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยประเด็นสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนในปีนี้คือ การเปลี่ยนถ่ายผู้นำของจีนที่จะเสร็จสิ้นในเดือน มี.ค.

นอกจากนี้ คาดว่าภาคการเงินของจีนก็มีแนวโน้มได้รับการกระตุ้นเช่นเดียวกัน หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อของจีนไม่เป็นปัญหาอย่างเช่นอดีตที่ผ่านมา ทำให้การที่ทางการจีนจะหามาตรการเพื่อผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น และน่าจะส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้น

นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. แอสเซท พลัส จำกัด ยังบอกอีกว่า นักวิเคราะห์คาดว่าในปีนี้เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียจะเติบโตสูงขึ้น และมีศักยภาพการเติบโตที่สูงที่สุดในโลก นำโดยประเทศจีนที่คาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจะกลับมาสูงถึงร้อยละ 8.1 เพิ่มขึ้นจากปี 2012 ที่ร้อยละ 7.7 ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของนักลงทุนในตลาดหุ้นจีน ประกอบกับตลาดหุ้นจีน และเอเชียยังได้รับปัจจัยบวกจากการเพิ่มสภาพคล่องในตลาดการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในวงเงินกว่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน

นายต่อ อินทวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ. แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด บอกว่า ในปีนี้เชื่อว่าหุ้นเอเชียยังคงเป็นดาวเด่นต่อจากปีที่ผ่านมาซึ่งจะมีเงินลงทุนจำนวนมากไหลเข้ามาลงทุนในตลาดเอเชียที่ให้ผลตอบแทนที่ดี และมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง

ส่วนตลาดหุ้นไทยในปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อเทียบกับตลาดในภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งสภาพคล่องทั่วโลกยังมีสูงและมีโอกาสที่จะไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบที่เราประเมินนั้นส่วนใหญ่จะมาจากปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นการแก้ปัญหาหนี้ยุโรป รวมถึงการแก้ปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯ

จากการวิเคราะห์ดูเหมือนทุกอย่างจะเข้าล็อกในการเลือกลงทุนตลาดหุ้นเอเชีย เอาเป็นว่าถ้าใครสนใจและรับความเสี่ยงได้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีกองทุนที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นเอเชียมาให้เลือกเช่นกัน

กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% # 6” (TISCO China Trigger 8% Fund # 6) กองทาร์เกตฟันด์ลงทุนในหุ้นจีน โดยจะลงทุนผ่านกองทุนอีทีเอฟต่างประเทศ ได้แก่ กองทุน Hang Seng H-Share Index ETF ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยมีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Hang Seng China Enterprise (HSCEI) หรือ H-Shares โดยมีอายุโครงการประมาณ 8 เดือน หรือสามารถเลิกโครงการก่อนครบกำหนดอายุโครงการ หากสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เปิดเสนอขายเพียงครั้งเดียว ตั้งแต่ 4-14 ม.ค. 56

กองทุนเปิดแอสเซทพลัสสตาร์ 4 (ASP-STARS 4) ระหว่างวันที่ 4-15 มกราคม 56 ที่จะเน้นลงทุนในหุ้นของประเทศจีน และเอเชียที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีการเติบโตของธุรกิจสูง โดยผู้จัดการกองทุนสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนตั้งแต่ 0-100% เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด และกองทุนมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทน 9% ภายใน 9 เดือน ด้วยวิธีรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ปรับขึ้นผ่านระดับ 10.90 บาท จากราคาเริ่มต้นที่ 10 บาท

สนใจกองไหนสามารถเลือกกันได้เลยสำหรับคนที่รับความเสี่ยงและความผันผวนได้
กำลังโหลดความคิดเห็น