xs
xsm
sm
md
lg

แอสเซทพลัสชี้หุ้นจีนดี เปิดทริกเกิอร์ยิลด์ 9%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.แอสเซท พลัสชี้หุ้นจีนปี 56 แจ่ม คาดอยู่ที่ระดับ 8.1% ล่าสุดเปิดตัวกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสตาร์ 4 เน้นลงทุนในหุ้นจีน และเอเชีย เป้าหมายสร้างผลตอบแทน 9% ภายใน 9 เดือน เสนอขายครั้งเดียว 4-15 มกราคมนี้

นางลดาวรรณ เจริญรัชต์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แอสเซท พลัส จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่นักวิเคราะห์คาดว่าในปี 2013 เศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียจะเติบโตสูงขึ้น และมีศักยภาพการเติบโตที่สูงที่สุดในโลก นำโดยประเทศจีน ถึงแม้การเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาส 3/55 ของจีนจะเติบโตอย่างชะลอตัวลงที่ระดับร้อยละ 7.4 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจหลังจากที่รัฐบาลได้มีมาตรการกระตุ้น และผ่อนคลายนโยบายการเงินในช่วงที่ผ่านมา

โดยล่าสุดเพื่อเป็นการสอดคล้องกับสถานการณ์ข้างต้น บริษัทได้ทำการเปิดขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสตาร์ 4 (ASP-STARS 4) ระหว่างวันที่ 4-15 มกราคม 56 ที่จะเน้นลงทุนในหุ้นของประเทศจีน และเอเชียที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและมีการเติบโตของธุรกิจสูง โดยผู้จัดการกองทุนสามารถปรับสัดส่วนการลงทุนตั้งแต่ 0-100% เพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะตลาด และกองทุนมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทน 9% ภายใน 9 เดือน ด้วยวิธีรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ปรับขึ้นผ่านระดับ 10.90 บาท จากราคาเริ่มต้นที่ 10 บาท

สำหรับกองทุน ASP-STARS 4 จะเน้นลงทุนในหุ้นจีนที่จดทะเบียนในดัชนี HSCEI โดยผู้จัดการกองทุนจะเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีโอกาสเติบโตได้ดี ได้แก่ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์จีนชั้นนำ ซึ่งได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตของสินเชื่อ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ธุรกิจประกันชีวิตจีน ที่ได้ประโยชน์จากการยกระดับสวัสดิการภาคบังคับ การเปิดโอกาสการลงทุนที่กว้างขึ้น และการขยายตัวของชุมชนเมืองทำให้ความต้องการประกันภัยสูงขึ้น ธุรกิจสื่อสาร ซึ่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ และการขยายตัวของตัวเมืองทำให้ปริมาณการใช้ 3G Smart Phone และ Internet เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ธุรกิจมีโอกาสเติบโตได้ดี และกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ซึ่งได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การเติบโตของสังคมเมือง แนวโน้มการพัฒนาชนบทเป็นชุมชนเมือง (Urbanization) และยอดค้าปลีกของจีนได้เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนในการเลือกหุ้น ผู้จัดการกองทุนจะเลือกบริษัทชั้นนำที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและมีมูลค่าที่เหมาะสม

นางลดาวรรณกล่าวอีกว่า ในปี 2013 นักวิเคราะห์คาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจจีนจะกลับมาสูงถึงร้อยละ 8.1 เพิ่มขึ้นจากปี 2012 ที่ร้อยละ 7.7 ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของนักลงทุนในตลาดหุ้นจีน ประกอบกับตลาดหุ้นจีน และเอเชียยังได้รับปัจจัยบวกจากการเพิ่มสภาพคล่องในตลาดการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในวงเงินกว่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ซึ่งจะทำให้มีเงินทุนไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ประเมินว่าหุ้นจีนที่น่าลงทุนคือ หุ้นของบริษัทสัญชาติจีนที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกง (ดัชนี HSCEI หรือ Hang Seng China Enterprise Index (H-share Index) เนื่องจากมีอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E ratio) ที่ประมาณ 10 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 13.1 เท่า และอยู่ระดับใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ประกอบกับบริษัทฯ ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัว และการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจซึ่งจะทำให้ P/E ปรับตัวขึ้นในระยะ 1 ปีข้างหน้า


กำลังโหลดความคิดเห็น