xs
xsm
sm
md
lg

“จรัมพร” หุ้นไทยร่วงทั้งภูมิภาค TIP ปรับเพิ่มเครดิตสหรัฐฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ตลท.คาดเงินทุนย้ายฐานกลับสหรัฐฯ หลังเพิ่มเครดิตขึ้น สวนทางภาคการส่งออกของจีนที่ทรุดลง ฉุดดัชนีหุ้นร่วงทั้งภูมิภาค TIP แนะจับตาดูตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนอย่าตื่นกลัว เพราะวอลุ่มการซื้อขายในปัจจัยพื้นฐานยังดีอยู่

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. กล่าวว่า จากกรณีที่หุ้นลดลงกว่า 51 จุด ในช่วงเปิดตลาดซื้อขายตลาดหุ้นไทยวันนี้ (11 มิ.ย.) หลักๆ ลดลงตามตลาดภูมิภาคเอเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม TIP (Thailand Indonesia Philippines) ที่ลดลงประมาณ 3% ส่วนประเทศอื่นประมาณ 2% จากประเด็นหลักที่สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P ได้ปรับระดับเรตติ้งสหรัฐฯ อัปเกรดขึ้นมาเป็นนิวโทรล ในขณะเดียวกับที่ตัวเลขการส่งออกของประเทศจีนนั้นเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการเอาไว้ ทางเศรษฐกิจเอเชียยังคงฟื้นตัวได้ช้าถ้าเทียบกันกับอเมริกา เพราะฉะนั้น คาดว่าจะมีเม็ดเงินไหลทั้งภูมิภาคเอเชียกลับไปยังสหรัฐฯ กรณีของประเทศไทยที่เงินไหลออกเป็นเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งภูมิภาค ไม่ใช่แค่ประเทศไทยเท่านั้น เพราะฉะนั้นนักลงทุนไทยที่ควรพิจารณาถึงผลกำไรในปีนี้ที่จะเกิดขึ้นมารึเปล่า ควรถือโอกาสในจังหวะที่หุ้นลงควรที่จะซื้อสะสม เพราะวอลุ่มการซื้อขายยังดีจากปัจจัยพื้นฐานยังคงดีอยู่ ขอให้ดูจากปัจจัยพื้นฐานเป็นเกณฑ์ไม่ควรตื่นตระหนกกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมากนัก เพราะเชื่อว่าตลาดหุ้นไทยไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย จากสภาพคล่องของเงินไหลออกนอกประเทศที่เกิดขึ้น

ในส่วนของผลประกอบการของบริษัทที่จดทะเบียนยังไม่มีผลโดยตรงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะฉะนั้น เวลาหุ้นลงอาจไม่ใช่หมายความว่าจะแย่ในการลงทุน ทั้งนี้ ต้องคอยติดตามเป็นระยะในแง่ของเม็ดเงินว่าจะไหลออกมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ ยังคงมีแรงขายฝั่งพันธบัตรจากต่างชาติเช่นเดียวกัน ทำให้ค่าบาทอ่อนลง ทั้งทางตลาดหุ้น และพันธบัตรก็เคลื่อนย้ายเงินทุนกลับไปยังสหรัฐฯ

ทั้งนี้ การประเมินว่าเงินที่ไหลออกนั้นทั้งปีต่างชาติขายออกไปเยอะมากแล้ว เริ่มเข้าสู่ภาวะโอเวอร์โซลด์ที่ขายออกไปมาก จนมีคำถามเกิดขึ้นว่า ยังมีให้ขายอีกหรือไม่ในเมื่อขายออกมาโดยตลอด ในแนวทางกลับกัน ต้องจับตาดูตลาดหุ้นจากนี้ไปว่าจะกลับมานิวโทรลอีกเมื่อไหร่ อาจจะใช้เวลาอีกสักพัก สิ่งที่น่าห่วงตอนนี้คือ สภาพคล่องของเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศที่ไหลเข้าออกว่าจะมีมากน้อยแค่ไหน โดยถือเป็นปัจจัยหลักที่ควรให้ความสำคัญมากที่สุด ซึ่งจะต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ให้ดูปัจจัยพื้นฐานเป็นเกณฑ์

“อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ประชุมรายไตรมาสกับทาง ก.ล.ต. ซึ่งได้หารือกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และส่วนใหญ่ได้มีการรายงานให้แก่ทาง ก.ล.ต. ทราบแล้ว ในส่วนของบัญชีมาร์จิ้นที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะโดนฟอร์สนั้นยังไม่มีรายงานถึงผลกระทบที่จะมีเข้ามา และดัชนีที่ระดับ 1,500 จุด ถ้าเทียบกับสมัยที่ดัชนี 750 จุด การร่วงลงไปที่ระดับ 50 จุด คิดเป็นเฉลี่ย 27-28% เท่านั้น”

ในส่วนกรณีไซฟ่อนเงินของ บมจ.แคลิฟอร์เนีย ว้าว เอ็กซ์พีเรียนซ์ หรือ CAWOW ทาง ตลท.ได้ประสานงานข้อมูลให้ความร่วมมือกับ ปปง.โดยอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเร็วๆ นี้
กำลังโหลดความคิดเห็น