“ซีไอเอ็มบีไทย” ประกาศเดินหน้าธุรกิจวาณิชธนกิจเต็มที่ หลังเซตทีมงานพร้อม ทั้งด้าน “M&A-IPO-กองอสังหาฯ” โชว์จุดเด่น “เครือข่ายครอบคลุม-ฐานเงินทุนแกร่ง” ตั้งเป้ามีรายได้เพิ่ม 50%
นายสิทธิไชย มหาคุณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สาย Corporate Finance ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) (CIMBT) กล่าวว่า ปี 2556 จะเป็นอีกปีที่ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จะรุกธุรกิจวาณิชธนกิจแบบเต็มตัว ภายใต้สายงาน Corporate Finance โดยได้ตั้งเป้าอัตราเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมวาณิชธนกิจไว้กว่า 50% ซึ่งรายได้ดังกล่าวจะมาจาก 3 กลุ่มธุรกิจหลักๆ ได้แก่ การเป็นที่ปรึกษาการนำหุ้นของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ (IPO) การเป็นที่ปรึกษาในการควบรวมกิจการ-หาพันธมิตร และการออกกองทุนเพื่อระดมเงินทุน
ทั้่งนี้ จุดเด่นที่สำคัญของธนาคารอยู่ที่เครือข่ายของกลุ่มซีไอเอ็มบีที่มีอยู่ทั่วโลก โดยเฉพาะเอเชียแปซิฟิก รวมถึงความแข็งแกร่งด้านเงินทุนที่ทางกลุ่มพร้อมจะสนับสนุน ทำให้ผู้ประกอบการได้มีทางเลือกในการทำธุรกรรมต่างๆ มากขึ้น โดยในปีนี้มีดีลการควบรวมกิจการหรือหาพันธมิตรลงทุนอยู่ 5-6 แห่ง ซึ่งจะมีทั้งในส่วนที่ไปลงทุนในต่างประเทศ และนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนไทย มีกลุ่มธุรกิจที่ได้รับความสนใจ เช่น เรียลเอสเตต อาหารและเครื่องดื่ม ยานยนต์ ลอจิสติกส์ เป็นต้น
ขณะที่ดีลขายหุ้น IPO ในปีนี้จะมีประมาณ 4 แห่ง มูลค่ารวมประมาณ 7,500 ล้านบาท หรือประมาณ 1,500-2,000 ล้านนบาทต่อราย ซึ่งเริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว และในส่วนของกองทุนจะเน้นที่กองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่ยังมีแนวโน้มดีในปีนี้ เนื่องจากจะหมดระยะเวลาที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้ออกในสิ้นปีนี้ และในปีหน้าก็เป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (Real Estate Investment Trust : REIT) แทน โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 3 และ 4 จะมีกองทุนอสังหาฯ ออกมาอีก 2 กอง จากทั้งหมด 4 กอง
“อัตราการเติบโตของรายได้ที่ตั้งไว้อาจจะดูเป็นระดับสูง แต่เราก็เชื่อว่าด้วยจุดเด่นที่มี ทั้งในส่วนของเครือข่ายที่ครอบคลุม เงินทุนที่แข็งแกร่ง และฝ่ายวิจัยที่เชี่ยวชาญ และได้รับการยอมรับ รวมถึงขนาดธุรกิจที่เข้ามาน่าจะใหญ่ขึ้น จะทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ”
นายสิทธิไชย กล่าวว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2556 สายงานวาณิชธนกิจของธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย มีงานที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นงานประเภท IPO จำนวน 4 ดีล งานกองทุนอสังหาริมทรัพย์ 4 ดีล และงานควบรวมและเข้าซื้อกิจการจำนวน 6 ดีล คิดเป็นมูลค่างานรวมมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท และมีงานอีกจำนวนพอสมควรที่อยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้า
เผยผลงานปี 55 ครองแชมป์ IPO
สำหรับผลการดำเนินงานที่โดดเด่นของงานด้านวาณิชธนกิจของกลุ่มซีไอเอ็มบีไทยเมื่อปี 2555 ที่ผ่านมา คือ ส่วนแบ่งการตลาดในการเสนอขายหลักทรัพย์ให้ประชาชนทั่วไป (IPO) ในประเทศไทยตลอดปี 2555 สูงเป็นอันดับ 1 โดยการจัดอันดับจาก Bloomberg ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 17% คิดเป็นมูลค่ารวม 8,700 ล้านบาท ซึ่งดีลที่สำคัญได้แก่ การเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วม หุ้นสามัญของ บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) (หรือบริษัท holding ของบริษัท ไทย แอร์เอเชีย) การเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วมหุ้นสามัญของ บมจ.อนันดา ดีเวล็อปเมนท์ (ANAN) การเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่าย กองทุนอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LHPF) และการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายร่วม กองทุนอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า ควอลิตี้เฮ้าส์ โฮเท็ล แอนด์ เรสิเดนท์ (QHHR)
นอกจากนี้ กลุ่มซีไอเอ็มบีไทย ยังได้เป็นที่ปรึกษาทางการเงินสำหรับดีลการควบรวมกิจการ (M&A) ให้แก่ บมจ.ซัสโก้ ในการเข้าซื้อสถานีน้ำมันจากปิโตรนาส และเป็นที่ปรึกษาในการควบรวมกิจการระหว่างกลุ่ม Fico และ บมจ.อีโวลูชั่น แคปปิตอล ขณะเดียวกัน กลุ่มซีไอเอ็มบีไทยยังได้มีส่วนร่วมเป็นผู้จัดการการจำหน่ายหน่วยลงทุนเพิ่มทุนของกองทุนอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า เทสโก้ โลตัส รีเทล โกรท (TLGF) ให้แก่นักลงทุนต่างประเทศ
และยังเป็นผู้นำในการเสนอขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ให้ประชาชนเป็นครั้งแรก โดยมีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดในการเสนอขายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา โดยมีส่วนร่วมใน 9 ดีล จากทั้งหมด 19 ดีล