ตลท. ชี้ “มูดี้ส์” หั่นเครดิตไทยไม่กระทบตลาดหุ้น แต่มีผลในระยะยาว

ผู้จัดการ ตลท. ชี้ “มูดี้ส์” ลดเครดิตประเทศไทยไม่กระทบตลาดหุ้น ยอมรับกระทบต้นทุนเอกชน แต่จะสะท้อนในปีหน้า และหากไทยถูกปรับลดเครดิตจริงๆ ก็จะเป็นผลที่เกิดในระยะยาวมากกว่า “ซีไอเอ็มบี” ยอมรับกระทบตลาดตราสารหนี้ “เมย์แบงก์” ส่งซิกเม็ดเงินเข้าสัปดาห์หน้า ส่วนภาวะหุ้นปิดครึ่งวันเช้าดิ่ง 24 จุด

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงการที่สถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ จะลดอันดับประเทศไทยลง โดยยืนยันว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นมากนัก แต่ยอมรับว่าอาจมีผลอยู่บ้างต่อต้นทุนประกอบกิจการของภาคเอกชน ซึ่งจะสะท้อนในรูปของผลประกอบการปีหน้า และเห็นว่าหากมูดี้ส์มีการปรับลดเครดิตประเทศไทยจริง ก็จะเป็นผลที่เกิดในระยะยาวมากกว่า

ส่วนการที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงอย่างหนักในช่วงนี้ เกิดจากการที่ต่างชาติถอนเงินในตลาดหุ้นเพื่อไปลงทุนในประเทศอื่น โดยเฉพาะการที่ตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวสูงสุดในภูมิภาคมาแล้ว ช่วงดัชนี 1,600 จุด จึงมีการปรับฐานทำกำไร

นายสิทธิไชย มหาคุณ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายคอร์ปอเรท ไฟแนนซ์ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ยอมรับว่า หากมูดี้ส์ปรับลดเครดิตของไทยลงจะทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการที่จะออกตราสารหนี้เพิ่มขึ้น แต่หากดูจากปัจจัยภายในประเทศแล้วการเติบโตยังเพิ่มขึ้น รัฐบาลยังลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานจึงเชื่อว่าในระยะยาวไม่น่าจะเป็นปัญหา

ด้านนายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงกว่า 26 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ ทั้งตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ หลังจากที่ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เมื่อคืนที่ผ่านมาร่วงกว่า 200 จุด

“การลงแรงตอนนี้ เนื่องจากแรงขายนักลงทุนต่างชาติยังคงมีอยู่ ซึ่งเกิดจากการปรับพอร์ต และมองว่าเมื่อดัชนีวิ่งเข้าใกล้ระดับ 1,500-1,510 จุด ก็มีโอกาสที่จะรีบาวนด์กลับได้”

พร้อมกันนี้ คาดการณ์ว่ากลางสัปดาห์หน้าคาดว่าตลาดหุ้นจะมีแรงเก็งกำไรในประเด็นของการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 18-19 มิถุนายน 2556 ซึ่งก็คงจับตาเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมให้แนวรับ 1,510 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520 จุด

สำหรับภาวะตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีปิดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,497.96 จุด ลดลง 24.70 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.62% มูลค่าการซื้อขาย 36,450.15 ล้านบาท โดยระหว่งชั่วโมงซื้อขายดัชนีปรับลงไปลึกแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,484.88 จุด