เกาะติด “เม็ดเงินนอก-แรงขายต่างชาติ” เดือน พ.ค. พบเม็ดเงินเกือบ 4 หมื่นล้าน ไหลออกจาก “ตลาดหุ้น-บอนด์” คาดโยกกลับตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังภาวะ ศก. เริ่มดีขึ้น พร้อมคาดกลางเดือนนี้ ดัชนีมีโอกาสฟื้นตัว
น.ส.อริยา ติรณะประกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยถึงทิศทางตลาดเงินและตลาดทุนของไทย โดยยอมรับว่า เมื่อเดือนพฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา พบว่าต่างชาติขายตราสารหนี้สุทธิเป็นเดือนแรกในปีนี้ ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 30.30 บาท (วันที่ 31 พ.ค.56) นอกจากนี้ คาดว่าทั้งตลาดหุ้นและตราสารหนี้ไทยจะยังคงผันผวน และลดลงต่อไปตามความกังวลนี้จนกว่าจะมีทิศทางเรื่องคิวอีที่ชัดเจน
ตลาดหุ้นไทย วันที่ 31 พ.ค. 2556 ดัชนีหุ้นสวิงจากภาคเช้าขึ้นไปสูงสุดที่ 1,595 จุด เพิ่มขึ้น 13.8 จุด ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ แต่หลังจากนั้นพลิกกลับมาติดลบ โดยเฉพาะช่วงบ่ายทรุดลงไปต่ำสุดที่ 1,555 จุด หรือติดลบถึง 26.09 จุด ก่อนเด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,562.07 จุด ลดลง 19.25 จุด หรือ 1.22% มูลค่าการซื้อขาย 75,638.29 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรก 351 ล้านบาท ภายหลังเทขายหนักมาตลอดในสัปดาห์นี้ แรงซื้ออาจจะเกิดจากการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติที่ต้องซื้อหุ้นที่ได้รับเลือกเข้าคำนวณดัชนี MSCI รอบนี้มากถึง 23 บริษัท แต่ถูกคัดออกเพียง 3 บริษัทเท่านั้น
นักวิเคราะห์ระบุว่า แรงขายของนักลงทุนต่างชาติในเดือน พ.ค. เนื่องจากความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดวงเงินตามมาตรการผ่อนคลายปริมาณเงิน (คิวอี) ในการประชุมวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยที่ผิดหวังเรื่องดอกเบี้ยนโยบายลดลงเพียง 0.25% เหลือ 2.5% จึงมีแรงเทขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติออกมามาก รวมถึงตราสารหนี้ด้วย
นอกจากนี้ ยังมองว่าเพียงสัปดาห์เดียว วันที่ 27-31 พ.ค.ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติมีการขายสุทธิถึง 1.4 หมื่นล้านบาท ทำให้ทั้งเดือน พ.ค.ขายสุทธิ 5,490 ล้านบาท เช่นเดียวกับการขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ตลอดทั้งเดือน พ.ค. สูงถึง 3.28 หมื่นล้านบาท
นายสุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นลงแรงหลุด 1,580 จุด ทำให้ภาพตลาดหุ้นไทยระยะสั้นเข้าสู่ช่วงของการปรับฐาน เนื่องจากไม่มีข่าวดีเข้ามาหนุน และยังมีข้อกังวลเรื่องคิวอี นอกจากนี้ เป็นช่วงของการปรับปรุงหุ้นตามดัชนี MSCI ทำให้มีทั้งหุ้นเข้าและออก อาจส่งผลให้มีการขายหุ้นออกมา
“ประเมินว่า ตลาดหุ้นเข้าสู่การปรับฐานเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ หรือในช่วงครึ่งแรกของเดือน มิ.ย.นี้ เพราะธนาคารกลางสหรัฐฯ จะมีการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 18-19 มิ.ย. ซึ่งน่าจะส่งสัญญาณถึงมาตรการคิวอี”
ทั้งนี้ หุ้นไทยปรับตัวลดลงมาแล้ว 5% จากระดับสูงสุด 1,650 จุด ดังนั้น มีโอกาสที่จะปรับฐานลงมาระดับ 1,550 จุดเพื่อสร้างฐาน แต่โดยภาพรวมแล้วเป็นการปรับฐานระยะสั้นเท่านั้น
นายยศพณ แสงนิล รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน เชื่อว่า เงินต่างชาติโยกกลับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ตัวเลขเศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น เพราะดัชนีหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นแล้ว แต่คาดว่าเดือน มิ.ย.จะโยกกลับ และผลักดันให้ดัชนีปรับตัวขึ้นไปที่ 1,650-1,670 จุดได้
ดังนั้น เมื่อดัชนีอ่อนตัวจึงเป็นโอกาสซื้อหุ้นที่ได้ดีจากดอกเบี้ยที่ลดลงทั้งกลุ่มธุรกิจเช่าซื้อรถ อสังหาริมทรัพย์ ท่องเที่ยว และรับเหมาก่อสร้าง