xs
xsm
sm
md
lg

“คลัง” ชี้ “หนี้ครัวเรือน” พุ่งตาม ศก. แต่ไม่ประมาท และมีการติดตามใกล้ชิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สศค. ชี้สถานะหนี้ครัวเรือนสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวดี ยันไม่น่าวิตกตามที่หลายฝ่ายออกมาแสดงความกังวล คาดจะเข้าสู่ภาวะปกติหลังผลของรถคันแรกหมดลง แต่ยังต้องติดตามใกล้ชิด

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สถานการณ์หนี้ครัวเรือนในปัจจุบันเป็นประเด็นที่สาธารณะให้ความสำคัญ และมีความกังวลถึงแนวโน้มของหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีความเสี่ยงที่อาจจะกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ และความยั่งยืนทางเศรษฐกิจได้ ดังนั้น สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจึงได้วิเคราะห์และประเมินสถานะหนี้ครัวเรือนของไทย ดังนี้

ในช่วงที่ผ่านมา การเติบโตของสินเชื่อรวมขยายตัวได้ดีตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่เติบโตได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องภายหลังวิกฤตอุทกภัยในช่วงปลายปี 2554 โดยในปี 2555 ยอดสินเชื่อรวมมีจำนวน 11.27 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 15.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ สินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคล (คิดเป็นร้อยละ 25.8 ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวได้ดีที่ร้อยละ 21.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากสินเชื่อเพื่อการซื้อ หรือเช่าซื้อรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ที่ขยายตัวร้อยละ 33.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโครงการรถคันแรกของภาครัฐที่ส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคที่เร่งการซื้อรถยนต์คันแรก ทั้งนี้ หากพิจารณาเฉพาะสินเชื่ออุปโภคบริโภคกรณีไม่รวมสินเชื่อเพื่อการซื้อ หรือเช่าซื้อรถยนต์ และรถจักรยานยนต์จะพบว่า อัตราการขยายตัวลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 17.4 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับภาวะสินเชื่อในไตรมาสแรกของปี 2556 พบว่า มีแนวโน้มยังคงขยายตัว แต่มีอัตราที่ชะลอลงเทียบกับช่วงไตรมาสก่อนหน้า โดยล่าสุด ยอดสินเชื่อรวมขยายตัวร้อยละ 15.8 ต่อปี โดยสินเชื่อสินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคล (สัดส่วนร้อยละ 25.1 ของสินเชื่อรวม) ขยายตัวร้อยละ 20.0 ต่อปี โดยสินเชื่อที่ขยายตัวได้ดีก็ยังคงมาจากสินเชื่อเพื่อการซื้อ หรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์เป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเฉพาะการขยายตัวของสินเชื่ออุปโภคบริโภคกรณีไม่รวมสินเชื่อเพื่อการซื้อหรือเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ พบว่า ขยายตัวลดลงอยู่ที่ร้อยละ15.1 ต่อปี อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของสินเชื่ออุปโภคบริโภคแผ่วลงจากไตรมาสก่อนหน้าโดยขยายตัวร้อยละ 1.6 (q-o-q) เทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปี 2555 ที่ขยายตัวร้อยละ 6.0 (q-o-q) นอกจากนี้ สินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลในหมวดอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้ขยายตัวมากนัก โดยขยายตัวร้อยละ 2.4 เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นปี 2555

สำหรับสินเชื่อบัตรเครดิตพบว่า การผิดนัดชำระหนี้ของสินเชื่อบัตรเครดิตยังอยู่ในระดับต่ำ โดยล่าสุด ยอดค้างสินเชื่อเกิน 3 เดือนขึ้นไปต่อสินเชื่อบัตรเครดิตอยู่ที่ร้อยละ 2.2 ของสินเชื่อบัตรเครดิต สะท้อนว่าครัวเรือนยังมีความสามารถในการชำระหนี้ที่ดี

เมื่อพิจารณาผลกระทบของสถานการณ์หนี้ครัวเรือนต่อสถานะการเงินของธนาคารพาณิชย์ พบว่า สถานะการเงินของสถาบันการเงินมีความแข็งแกร่ง และยังไม่มีสัญญาณของปัญหาสินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลสะท้อนได้จาก (1) Gross NPLs ยังไม่มีสัญญาณที่น่าเป็นห่วง โดยล่าสุด Gross NPLs ทั้งระบบต่อสินเชื่อรวมในไตรมาสที่ 1 ปี 2556 อยู่ที่ร้อยละ 2.2 ของสินเชื่อคงค้างรวม ขณะที่สัดส่วนของสินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลที่เป็น Gross NPLs มีสัดส่วนที่ต่ำเพียงร้อยละ 0.51 ของสินเชื่อรวม และ (2) อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของระบบธนาคารพาณิชย์ (Capital Adequacy Ratio: CAR) ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2556 อยู่ที่ร้อยละ 15.9 ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้ร้อยละ 8.5

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในประเด็นสัดส่วนหนี้ครัวเรือนจากข้อมูลของ ธปท. ต่อรายได้ของภาคครัวเรือน สศค. พบว่า ในปี 2555 สัดส่วนดังกล่าวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 82 ซึ่งยังอยู่ในระดับปกติในปัจจุบัน แต่ถือเป็นประเด็นที่ต้องติดตามถึงแนวโน้มในอนาคตต่อไป

รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กล่าวสรุปว่า “สถานการณ์ของหนี้ครัวเรือนที่ขยายตัวในระดับสูงในปี 2555 มาจากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวได้ดี รายได้ประชาชนเพิ่มขึ้น และนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการรถคันแรก ซึ่ง สศค. ประเมินว่า อัตราการขยายตัวของหนี้ครัวเรือนจะเริ่มมีสัญญาณกลับสู่ภาวะปกติภายหลังจากที่นโยบายรถคันแรกได้สิ้นสุดลงแล้ว นอกจากนี้ สถานะการเงินของสถาบันการเงินไทยถือว่ามีความแข็งแกร่ง และยังไม่มีสัญญาณของปัญหาหนี้เสียจากสินเชื่ออุปโภคบริโภคส่วนบุคคลในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ในระยะต่อจากนี้ สศค. จะติดตามสถานการณ์หนี้ครัวเรือนอย่างใกล้ชิดต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น