“โต้ง” หนุนหลัง “สภาพัฒน์” เดินเกมบีบ “กนง.” ผู้ว่าฯ “ประสาร” ไม่หนักใจถูกกดดันหนัก

“โต้ง” โดดหนุนหลัง “สภาพัฒน์” ชี้การที่ ธปท. ตั้งข้อสงสัยในตัวเลข “จีดีพี” แถลงต่อสาธารณะนั้น ถือว่าเป็นการตั้งข้อสังเกตที่เลยเถิดเกินไป และไม่ควรนำมาเป็นประเด็นในฐานะที่เป็นหน่วยงานราชการด้วยกัน ไม่ควรตั้งข้อสงสัยเช่นนี้ เพราะถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติส่วนราชการเท่าไหร่ พร้อมส่งสัญญาณลุยกดดัน กนง. ขณะที่ “ประสาร” ยืนยันไม่รู้สึกถูกกดดันตัดสินใจปรับดอกเบี้ย 29 พ.ค.นี้ มั่นใจผู้ทำหน้าที่เป็นผู้ใหญ่พอ ยึดตามข้อมูลเศรษฐกิจ

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงสถานการณ์ค่าเงินบาท ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยระบุว่า การที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ตั้งข้อสงสัยในตัวเลขเศรษฐกิจที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. แถลงต่อสาธารณะนั้นถือว่าเป็นการตั้งข้อสังเกตที่เลยเถิดเกินไป และไม่ควรนำมาเป็นประเด็น

ทั้งนี้ ตนเองขอยืนยันว่า สศช.เป็นหน่วยงานราชการที่ทำหน้าที่รวบรวมตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศอยู่แล้ว ในฐานะที่เป็นหน่วยงานราชการด้วยกันไม่ควรตั้งข้อสงสัยเช่นนี้ เพราะถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติส่วนราชการเท่าไหร่ โดยในการประชุม ครม.วันที่ 28 พ.ค.นี้ จะเชิญกระทรวงการคลัง สศช. และ ธปท.ให้มารายงานตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสแรก ให้ ครม.รับทราบ

“ผมอยากให้ ธปท.พูดคุยกับผู้ส่งออกที่เป็นผู้หาเลี้ยงประเทศบ้างว่าคิดอย่างไร หาก กนง. คิดลดดอกเบี้ยเพียงแค่ 0.25% หรือไม่ลดเลยต้องถือว่า กนง.อยู่ในภาวะไม่รู้ร้อนรู้หนาวซึ่งควรลดมากกว่านี้ แต่ลดเท่าใดจะตรงใจกับตัวเองหรือเปล่าคงต้องติดตามดูผลการประชุม กนง.ในวันที่ 29 พ.ค. ซึ่งถ้าลดไม่ถึง 0.5% ก็จะไม่ซื้อเสื้อหนาวให้เป็นของขวัญ”

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการ สศช. เปิดเผยกรณีตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีไตรมาส 1 ของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ออกมาไม่สอดคล้องกับผลการประเมินของ ธปท. โดยชี้แจงว่า การจัดทำตัวเลขจีดีพีซึ่งยึดตามมาตรฐานสากลขององค์การสหประชาชาติที่ใช้กันทั่วโลก มีการประเมินผลติดตามคุณภาพจากองค์กรระหว่างประเทศที่ดูสถิติอย่างต่อเนื่อง

“ที่ผ่านมา สศช.ได้ประเมินผลบนพื้นฐานความครบถ้วน สมบูรณ์ อาจจะมีความแตกต่างจากข้อมูลในเรื่องของการประมาณการ ซึ่งการออกมาชี้แจงครั้งนี้เป็นเพียงการชี้แจงหลักการของการจัดทำผลจีดีพีของสภาพัฒน์เท่านั้น ไม่ได้เป็นการตอบโต้ทางแบงก์ชาติแต่อย่างใด”

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า สถานการณ์การเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในปัจจุบันที่ปรับอ่อนค่าลง จะช่วยลดแรงกดดันในการพิจารณาตัดสินอัตราดอกเบี้ยนโยบายของการประชุม กนง. ในการประชุมวันที่ 29 พ.ค.นี้ หรือไม่นั้น ตนเองมองว่า ปัจจัยเรื่องค่าเงินเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นประเด็นที่อ่อนไหวต่อข่าวสารได้ง่ายๆ เพราะเกี่ยวข้องกับตลาดการเงิน ทั้งข่าวจากต่างประเทศและข่าวในประเทศ

“ถามว่าการประชุมครั้งนี้มีความลำบากใจหรือไม่นั้น ผมไม่ได้ลำบากใจ ไม่เป็นไร เพราะกนง.ที่ทำงานร่วมกันเป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้น มีข้อมูลดู ต้องพิจารณาจากข้อมูลเป็นหลัก ส่วนผลการตัดสินที่จะออกมา ไม่ว่าออกไปในทางไหนก็ต้องมีเหตุผลที่อธิบายได้”

นายประสาร กล่าวว่า การที่ค่าเงินบาทช่วงนี้นิ่ง เป็นเพราะรอผลการประชุม กนง.หรือไม่นั้น ผมไม่ทราบ แต่เข้าใจว่ามีข่าวหลายอย่างทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศที่มีผลต่อค่าเงินบาทในช่วงนี้ ยังต้องติดตามความเคลื่อนไหวกันต่อไป