กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จัดประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิก ประจำปี 2556 โดยมี นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ประธานกรรมการ กบข.เป็นประธานการประชุม ส่วนข้าราชการที่ต้องการกลับไปสู่ระบบบำนาญ หากร่างแก้ไข พ.ร.บ.กบข.ผ่านการพิจารณาสภาปลายปีนี้ และมีผลใช้บังคับปี 2557 จะมีเวลาตัดสินใจว่าจะอยู่ใน กบข.ต่อ หรือเข้าระบบบำนาญถึง 30 มิ.ย.2557
นายอารีพงศ์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในปี 2555 กบข.มีสินทรัพย์สุทธิ 577,132 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.46 จากปี 2554 แบ่งเป็นจากเงินรับสมาชิก 31,067 ล้านบาท และผลประโยชน์สุทธิในปี 2555 เพิ่มขึ้น 35,408 ล้านบาท ทำให้ผลตอบแทนการลงทุนในปี 2555 อยู่ที่ร้อยละ 7.82 และผลตอบแทนเฉลี่ย 16 ปี ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนคือ ตั้งแต่ปี 2540-2555 อยู่ที่ระดับร้อยละ 7.04 สูงกว่าเงินเฟ้อเฉลี่ยที่ร้อยละ 3.01
ทั้งนี้ เป็นผลจากภาวะเศรฐษกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้นจากนโยบายผ่อนปรนนโยบายทางการเงินและอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการลงทุนของ กบข. ที่เน้นการลงทุนในหุ้นไทย และหุ้นโลก และขยายการลงทุนเพิ่มในโครงสร้างพื้นฐานโลก ซึ่งให้ผลตอบแทนที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี และช่วยกระจายความเสี่ยง
สำหรับปี 2556 กบข.จะเน้นความคล่องตัวในการบริหารพอร์ตการลงทุนตามหลักการบริหารเชิงรุก เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจ และตลาดการเงินที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โดยจะเริ่มลงทุนตามแผนจัดสรรการลงทุนระยะยาวฉบับใหม่ตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นไป ซึ่งเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ที่มีการเติบโตสูง เช่น หุ้นไทย และต่างประเทศ รวมทั้งเริ่มลงทุนในนิติบุคคลเอกชนโลก ส่วนเงินบาทที่แข็งค่าไม่กระทบการลงทุนของ กบข.มากนัก เพราะทำการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน
นายอารีพงศ์ กล่าวถึงการแก้ไขพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2539 ว่า หลังจากกระทรวงการคลังเสนอเรื่องแก่คณะรัฐมนตรี และผ่านการพิจารณาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจร่างของคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ในเดือนสิงหาคม 2556 และคาดว่ากฎหมายจะผ่านการพิจารณาของสภาฯ ช่วงสิ้นปีนี้
ดังนั้น หาก พ.ร.บ.แก้ไขฉบับนี้มีผลบังคับใช้ สมาชิกใดที่ตัดสินใจเข้าสู่สมาชิก กบข.ก่อนหน้านี้ และมาถึงวันนี้เห็นว่าไม่เป็นธรรม สมาชิกมีโอกาสที่จะเลือกได้ว่า อยากเป็นสมาชิก กบข.อยู่ต่อไป หรือออกจากการเป็นสมาชิก และเข้าสู่ระบบบำนาญได้ โดยข้าราชการทั้งที่เกษียณไปแล้ว และยังไม่เกษียณอายุราชการมีสิทธิตัดสินใจจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2557 หรือ 6 เดือนหลัง พ.ร.บ.กบข.ฉบับแก้ไขมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งหากข้าราชการเลือกไปรับบำนาญ จะมีการคำนวณเงินผลประโยชน์ใหม่
สำหรับผู้ที่เกษียณราชการไปแล้ว รับเงินจากกองทุน กบข.ไปแล้ว หากเลือกเข้าระบบบำนาญก็จะมีการคำนวณใหม่ผลประโยขน์ใหม่ตามระบบบำนาญ แต่เงินที่รับไปตอนเกษียณอายุต้องนำมาเคลียร์กับ กบข.ก่อน ส่วนผู้ที่เป็นข้าราชการยังไม่เกษียณ จะเข้าระบบบำนาญ
นายอารีพงศ์ กล่าวว่า หากเลือกเป็นสมาขิก กบข.จะได้รับเงินสะสมเป็นเงินก้อน หลังจากนั้นได้บำนาญในอัตราต่ำสุดของ กบข. แต่ถ้าหากเลือกเข้าระบบบำนาญจะได้รับเงินก้อนลดลง แต่จะได้รับเงินบำนาญในอัตราที่สูงขึ้น ซึ่งจากข้อมูลที่ได้รับทราบว่า บางคนไม่คุ้มที่จะออกจาก กบข.
น.ส.โสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการ กบข. กล่าวว่า กบข.ยังให้ความสำคัญด้านสมาชิก โดยวางแผนเป็นคู่คิดใกล้ชิดสมาชิกด้วยการจัดสวัสดิการตามช่วงอายุ การสื่อสารผ่านเครือข่ายพันธมิตรอย่างเข้าถึง สร้างความตระหนักให้เห็นความสำคัญการออม ด้วยการบริการออมเพิ่ม ซึ่งปีนี้ กบข.เริ่มให้บริการแผนทางเลือกการลงทุนใหม่ คือ แผนสมดุลตามอายุ
