ผู้บริหาร “ซีพีออลล์” ย้ำชัดหลังซื้อกิจการ “สยามแม็คโคร” นโยบายไม่เปลี่ยนแปลง ผู้ถือหุ้นยังได้ปันผลปีละครั้ง ล่าสุด จ่ายหุ้นละ 90 สต. มั่นใจทีมทำงานร่วมกันได้ และขยายกิจการเพื่อเข้าสู่ “เออีซี” ลั่นไม่ได้มองเพื่อหวังที่ดิน หรือหวังน้ำบ่อหน้า พร้อมจะพิสูจน์ให้เห็นว่าภายใน 1-2 ปีนี้จะได้เห็นชัดเจน มองเป็นการลงทุนที่สุดคุ้ม
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL กล่าวว่า หลังจากซีพีออลล์ซื้อกิจการบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO บริษัทยังมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลต่อเนื่องอย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่าเดิม ซึ่งมีแต่จะเพิ่มขึ้น โดยล่าสุด ได้ประกาศจ่ายปันผลที่ 90 สตางค์ต่อหุ้น และจ่ายปีละ 1 ครั้งเช่นเดิม
นายก่อศักดิ์ กล่าวต่อว่า การลงทุนซื้อแม็คโครในครั้งนี้ เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า แม้จะจ่ายแพงในช่วงแรกแต่ถือว่าถ้าโตแล้วคุ้ม ทั้งนี้ บริษัทไม่ได้มองว่าการซื้อแม็คโครครั้งนี้เพื่อหวังที่ดิน ไม่หวังน้ำบ่อหน้า ซึ่งจะพิสูจน์ให้เห็นว่าภายใน 1-2 ปีนี้จะได้เห็น ประกอบกับบริษัทต้องการขยายกิจการเพื่อรองรับเออีซีที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้
นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมาได้เดินสายชี้แจงต่อผู้ถือหุ้นในต่างประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยขอให้ผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมวิสามัญในวันที่ 12 มิถุนายน 2556 นี้ เพื่อลงมติอนุมัติให้บริษัทดำเนินการซื้อหุ้นแม็คโคร เนื่องจากเป็นโอกาสดีของบริษัท และคนไทยที่จะซื้อกิจการต่างประเทศให้มาเป็นของคนไทย และเป็นแฟรนไชส์ของคนไทยที่จะขยายออกไปทั่วโลก
“ผมขอให้มั่นใจว่า แม็คโคร เป็นกิจการที่ดี เห็นได้จากสถาบันการเงินหลายแห่งพร้อมสนับสนุนปล่อยกู้ และให้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำที่สุด โดยเสนอระยะเวลาการกู้มากขึ้นกว่าเดิมจาก 1 ปี เป็น 5 ปี และ 8 ปี อย่างไรก็ตาม บริษัทมีทางเลือกอื่นอีก เช่น การออกหุ้นกู้ ซึ่งได้ศึกษาเป็นอีกทางหนึ่งด้วย”
สำหรับเงินลงทุนซื้อหุ้นแม็คโครเป็นวงเงินกู้ ประมาณ 165,000 ล้านบาท จากสถาบันการเงิน 7 แห่ง แต่ละแห่งปล่อยสินเชื่อในสัดส่วนเท่ากันทุกราย โดยมีธนาคารไทย 3 แห่ง คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงเทพ และอีก 4 รายเป็นธนาคารต่างชาติ คือ ธนาคารเอชเอสบีซี ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ธนาคารยูบีเอส เอจี และธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง