“ซีพี ออลล์” แถลงทุ่มลงทุน 188,880 ล้านบาท ซื้อหุ้น "แม็คโคร" เพื่อขยายธุรกิจค้าปลีกสู่เออีซี เล็งใช้เป็นช่องทางในการกระจายสินค้าจากประเทศไทย โดยเฉพาะสินค้าจากผู้ผลิต "เอสเอ็มอี" รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตรของไทย สินค้าประเภทอาหารแช่แข็ง และอาหารสด ไปจำหน่ายในประเทศกลุ่มเอเซีย โดยจะใช้ชื่อ "สยามแม็คโคร" เข้าไปลงทุน คาดโกยยอดขายปีละ 3 แสนล้าน เผยการเทคโอเวอร์ครั้งนี้ ใช้เงินสดตัวเอง 10 ส่วน และที่เหลือเป็นเงินกู้จาก 5 แบงก์พาณิชย์
นายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) เปิดเผยในการแถลงข่าว โดยระบุว่า บริษัทเข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท เอสเอชวี เนเธอร์แลนด์ บี.วี. (SHV) โดยซื้อหุ้น บมจ.สยามแม็คโคร (MAKRO) บริษัท สยามแม็คโคร โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท โอเอชที (OHT) จำนวน ร้อยละ 64.53 ในราคา 787 บาท หรือเทียบเท่าหุ้นละ 27.50 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นจำนวน 154,429,500 หุ้น รวมเป็นมูลค่า 121,536 ล้านบาท แต่หากรวมการทำคำเสนอซืิ้อจากผู้ถือหุ้นรายย่อยทั้งหมด จะเป็นมูลค่ารวม 188,880 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นดีลการซื้อขายหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
โดยการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ บริษัทใช้กระแสเงินสดของ บมจ.ซีพี ออลล์ ร้อยละ 10 ส่วนที่เหลือ เป็นเงินกู้จากสถาบันการเงิน 5 แห่ง คือ ธนาคารฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้แบงก์กิ้งคอร์ปอเรชั่น ,ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์, ธนาคารยูบีเอส เอจี, ธนาคารซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น และธนาคารไทยพาณิชย์ โดยวงเงินกู้แต่ละธนาคารจะในอัตราใกล้เคียงกัน อายุเงินกู้ประมาณ 1 ปี โดยมีเงินกู้ในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐด้วย และ บริษัทจะไม่มีการเพิ่มทุนแต่อย่างใด โดยเงินลงทุนทั้งหมดคิดเป็น 5 เท่า ของกำไรสุทธิก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อม และภาษี
ทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขอมติในวันที่ 12 มิถุนายน 2556 และหากได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้น บริษัทจะดำเนินการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ บมจ.สยามแม็คโครในส่วนที่เหลือในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2556 โดยราคาเสนอซื้อที่ 787 บาทต่อหุ้น ซึ่งคาดว่าการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้จะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2556 และจะคงให้ บมจ. สยามแม็คโคร เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป
นายก่อศักดิ์ กล่าวว่า การเข้าซื้อหุ้นสยามแม็คโครเพื่อใช้เป็นช่องทางในการกระจายสินค้าจากประเทศไทย โดยเฉพาะสินค้าจากผู้ผลิตขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ SME รวมทั้งผลผลิตทางการเกษตรของไทย สินค้าประเภทอาหารแช่แข็งและอาหารสด ไปจำหน่ายในประเทศกลุ่มเอเซีย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการรองรับการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 ที่ตลาดการค้าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 600 ล้านคน โดยจะใช้ชื่อ สยามแม็คโคร เข้าไปลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจค้าปลีกในเออีซี และประเทศใกล้เคียง รวมทั้งจีน ซึ่งประเทศแรกที่จะเข้าไปลงทุนขยายธุรกิจ คือ ลาว หรือ เวียดนาม โดยจะใช้ทีมผู้บริหารของสยามแม็คโครทั้งหมด เนื่องจากเป็นทีมที่มีศักยภาพ ขณะที่ ซีพี ออลล์ จะสนับสนุนด้านการฝึกอบรมบุคลากร ซึ่งคาดว่าเมื่อ 2 บริษัทรวมกันจะมียอดขายถึง 300,000 ล้านบาทต่อปี