กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง อวดกำไรไตรมาส 2 ปีนี้ 672.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 98.07% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 339.63 ล้านบาท “สมบูรณ์” ระบุเหตุผลักดันผลงานโดดเด่น มาจากรายได้รวมเพิ่มขึ้นเป็น 1,711.27 ล้านบาท จากงวดเดียวกันกับปีก่อนมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,388.64 ล้านบาท พร้อมกับบันทึกกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุน “กันกุล พาวเวอร์เจน” ให้ “ชูบุ อีเล็คทริค เจ็ม.บี.วี.” และขานรับค่าใช้จ่าย-ต้นทุนลด ประเมินนับจากนี้อนาคตกลุ่ม GUNKUL เติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้นตามดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ยังเดินหน้าลุยลงทุนด้านพลังงานทดแทนทั้งใน และต่างประเทศ สร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างเต็มที่
นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) (GUNKUL) เปิดเผยถึงผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2556 สิ้นสุด วันที่ 31 มีนาคม 2556 ของบริษัท และบริษัทย่อยว่า มีผลกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จสำหรับงวด จำนวน 672.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันกับปีก่อนที่มีผลกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ จำนวน 339.63 ล้านบาท โดยมีกำไรเพิ่มขึ้นจำนวน 333.09 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 98.07
สำหรับสาเหตุที่ผลประกอบการไตรมาส 1/2556 ของกลุ่มบริษัท GUNKUL โดดเด่นขึ้นอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มบริษัทมีรายได้รวม จำนวน 1,711.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันกับปีก่อน ซึ่งมีรายได้รวม จำนวน 1,388.64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จำนวน 322.63 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.23 เนื่องจากมีการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นและเป็นสาระสำคัญจากกำไรจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท กันกุล พาวเวอร์เจน จำกัด ให้แก่บริษัท ชูบุ อีเล็คทริค เจ็ม.บี.วี. ในสัดส่วนร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว จำนวน 775.04 ล้านบาท (ทั้งนี้ ได้รวมผลกำไรส่วนที่เกิดจากการรับรู้มูลค่าเงินลงทุนในบริษัทดังกล่าวด้วยมูลค่ายุติธรรม ณ วันที่โอนจำหน่ายเงินลงทุนให้แก่ผู้ร่วมทุน และขาดซึ่งอำนาจในกาควบคุม 437.12 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการบริหารได้ลดลงมาอยู่ที่ จำนวน 72.08 ล้านบาท จากงวดเดียวกันกับปีก่อน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการบริหาร จำนวน 87.65 ล้านบาท หรือลดลง จำนวน 15.57 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 17.76 ขณะที่ต้นทุนทางการเงินลดลงมาอยู่ที่ จำนวน 21.06 ล้านบาท จากงวดเดียวกันกับปีก่อน ซึ่งมีต้นทุนทางการเงิน จำนวน 34.05 ล้านบาท หรือลดลง 12.99 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ38.15
“เป็นที่น่ายินดี และพอใจอย่างยิ่งที่ผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ของกลุ่มบริษัท สามารถทำรายได้ และกำไรจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ และธุรกิจเดิมได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เราสามารถปิดบัญชีรอบแรกได้อย่างสวยงาม ซึ่งต้องขอขอบคุณทีมผู้บริหาร พนักงานทุกท่านในหน่วยงานธุรกิจ และหน่วยงานสนับสนุน รวมถึงลูกค้า และคู่ค้าของเราที่ได้ให้ความไว้วางใจในการใช้บริการ และทำงานร่วมกับเราตลอดมา ผนวกกับความมุ่งมั่นในการทำงานของทุกฝ่าย รวมถึงปริมาณงานทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จึงช่วยสนับสนุนให้ผลงานไตรมาสแรกของปีนี้ออกมาโดดเด่น”
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2556 ของกลุ่มบริษัทน่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ตามความต้องการในอุตสาหกรรมระบบไฟฟ้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่ยังขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสแรก
โดยเฉพาะจะรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นธุรกิจของบริษัท กันกุล พาวเวอร์เจน จำกัด (GPG) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GUNKUL สามารถดำเนินการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ทั้งหมด จำนวน 6 สัญญา กำลังการผลิตไฟฟ้ารวมที่ได้รับการอนุมัติคือ 30.9 เมกะวัตต์ ให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ทั้งหมดภายในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยจะทยอยรับรู้รายได้เข้ามาทันทีในปีนี้
ทั้งนี้ อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทคงเหลือเพียง 0.66 เท่า ซึ่งจะเป็นส่วนสนับสนุนสำคัญที่ทำให้บริษัทสามารถดำเนินการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 60 MW ที่ ตำบลห้วยบง อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา และคาดว่าจะได้รับสนับสนุนเงินกู้โครงการเสร็จสิ้นได้ในราวเดือนกันยายน 2556 นี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมีแผนในการลงทุนด้านพลังงานทดแทนทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งหลายๆ โครงการอยู่ระหว่างการเจรจา เพื่อเพิ่มศักยภาพของธุรกิจให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง อันจะนำไปสู่การสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นในอนาคต โดยตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ซึ่งทยอยรับรู้รายได้จากงานในมือ (Backlog) ที่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1,200 ล้านบาท ขณะเดียวกัน GUNKUL ยังเดินหน้าหางานใหม่ๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ Backlog สูงขึ้น