xs
xsm
sm
md
lg

CPALL ซื้อแม็คโครไทย 1.88 แสน ล. เตรียมชงผู้ถือหุ้นอนุมัติ 12 มิ.ย.นี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายธนินท์  เจียรวนนท์  (ที่ห้าจากซ้าย) ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)  และนายก่อศักดิ์  ไชยรัศมีศักดิ์ (ที่สี่จากซ้าย)  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมลงนามสัญญาการซื้อหุ้นของบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ในประเทศไทย มูลค่า 188,880 ล้านบาท กับนาย Stehpan Nanninga (ที่หกจากซ้าย)  กรรมการ  กลุ่มบริษัท SHV  โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นที่ปรึกษาทางการเงินฝ่ายผู้ซื้อ และเป็นผู้จัดการวงเงินสินเชื่อร่วม พิธีลงนามซื้อขายหุ้นดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประเทศฮ่องกง
ASTVผู้จัดการรายวัน - “ซีพี ออลล์” (CPALL) เทกโอเวอร์ “แม็คโคร” (MAKRO) บอร์ดไฟเขียวซื้อหุ้นทั้งหมด รวมทั้ง 2 บริษัทในกลุ่มจาก “เอสเอชวี เนดธอร์แลนด์ บี.วี. (SHV)” มูลค่า 1.21 แสนล้านบาท คิดเป็น 787.00 บาท/หุ้น แถมควักอีก 6.7 หมื่นล้าน ตั้งโต๊ะเทนเดอร์ออฟเฟอร์ซื้อหุ้นอีก 85 ล้านหุ้น เตรียมชงผู้ถือหุ้นอนุมัติ 12 มิ.ย.นี้ ชี้ได้รับประโยชน์จากผลตอบแทนการลงทุนที่ดี และมั่นคงเพราะเป็นบริษัทที่มีคุณภาพ มีกลยุทธ์ และการตลาดที่โดดเด่น ทีมงานประสบการณ์สูง มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนกระจายสินค้า และลดต้นทุนดำเนินงาน อีกทั้งมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทน และมูลค่าเพิ่มจากอสังหาริมทรัพย์ โบรกฯ ห่วงหนี้พุ่ง แต่เชื่อช่วยต่อยอดธุรกิจ

นายเกรียงชัย บุญโพธิ์อภิชาติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (CPALL) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 22 เม.ย. มีมติเข้าซื้อหุ้น และทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ บมจ.สยาม แม็คโคร (MAKRO) รวมทั้ง บริษัท สยามแม็คโครโฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท โอเอชที จำกัด ซึ่งที่เป็นผู้ถือหุ้น MAKRO ทั้งทางตรง และทางอ้อม จำนวน 154,429,500 หุ้น หรือ 64.35% มูลค่าหุ้นละ 787.00 บาท หรือเทียบเท่าหุ้นละ 27.50 เหรียญสหรัฐ โดยเข้าลงนามสัญญาซื้อขายข้างต้นกับ บริษัท เอสเอชวี เนดธอร์แลนด์ บี.วี. (SHV) เพื่อได้มาซึ่งสิทธิการใช้ทรัพย์สินทางปัญญา และสิทธิในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งคิดเป็นจำนวนสินทรัพย์ที่จะได้มาประมาณ 121,536 ล้านบาท หรือ 4,247 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ บริษัทมีแผนจะทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์แก่ผู้ถือหุ้นในส่วนที่เหลืออีก 85.57 ล้านหุ้น ใน ราคา 787.00 บาท/หุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 67,344 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับการซื้อหุ้นในครั้งแรก จะทำให้ CPALL ใช้เงินในการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ทั้งสิ้น 1.89 แสนล้านบาท ขณะเดียวกัน ได้กำหนดจัดการประชุมผู้ถือหุ้น ในวันที่ 12 มิ.ย.2556 เพื่อขออนุมัติเรื่องดังกล่าว

สำหรับแหล่งเงินทุนในการซื้อกิจการ MAKRO ครั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้ใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานของ CPALL และวงเงินตามสัญญาในการสนับสนุนการเงินจากสถาบันการเงิน

โดยผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัทจากการเข้าซื้อหุ้น MAKRO ครั้งนี้ คือ ได้รับประโยชน์จากผลตอบแทนการลงทุนที่ดีและมั่นคง ในการดำเนินธุรกิจ เพราะเป็นบริษัทที่มีคุณภาพ มีกลยุทธ์ และการตลาดที่โดดเด่นชัดเจน มีทีมงานประสบการณ์สูง มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ขณะเดียวกัน ช่วยสร้างผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นผ่านการสร้างประโยชน์ร่วมกันของทั้ง 2 องค์กร และการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่ง เพื่อเพิ่มความสามารถเจรจากับคู่ค้าที่มียอดขายรวมสูงถึง 3 แสนล้านบาท และเพิ่มประสิทธิภาพร่วมกันในการวางแผนกระจายสินค้าเพื่อลดต้นทุนดำเนินงาน อีกทั้งโอกาสในการสร้างผลตอบแทน และมูลค่าเพิ่มจากอสังหาริมทรัพย์และตราสินค้า MAKRO เช่นการบริหารจัดการพื้นที่ใช้สอยของอสังหาริมทรัพย์ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

“บริษัทฯ จะใช้แหล่งเงินทุนจากกระแสเงินสดประมาณ 10% ส่วนที่เหลือจะกู้ยืมจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วโลก รวมทั้งธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) โดยเงินกู้จะมีทั้งเงินบาท และดอลลาร์ ตอนนี้มีธนาคารที่ตอบรับให้กู้แล้ว 5-6 แห่ง แต่อยู่ระหว่างเจรจาเพิ่มเติมอีก อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า CPALL จะไม่เพิ่มทุนจดทะเบียน เนื่องจากการซื้อหุ้นครั้งนี้ขึ้นอยู่บนพื้นฐานที่ต้องการสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่ผู้ถือหุ้น และเชื่อว่าการทำธุรกรรมนี้ไม่มีส่วนใดที่จะส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น แม้ภายหลังการซื้อหุ้น MAKRO เสร็จสิ้น บริษัทฯ จะมีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนประมาณ 5 เท่า เพราะอัตราส่วนดังกล่าวจะลดลงตามแนวโน้มผลประกอบการที่ดีขึ้น และขอย้ำว่าราคาในการซื้อหุ้นครั้งนี้ไม่แพง”

แม็คโครคาดดีลแล้วเสร็จภายในสิ้น มิ.ย.นี้

นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานบริหารการเงิน บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO กล่าวว่า บริษัทฯ ได้รับแจ้งจากบริษัท เอสเอชวี โฮลดิ้ง เอ็นวี (SHV) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ว่า SHV ได้ตกลงทำสัญญากับ บมจ.ซีพี ออลล์ เพื่อขายหุ้นทั้งหมดของ SHV และบริษัทในเครือของ SHV ที่ถือหุ้นในบริษัททั้งทางตรง และทางอ้อม จำนวน 154,429,500 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 64.35 ของจำนวนหุ้นที่ออก และจำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ในราคา 787 บาทต่อหุ้นซึ่งเป็นราคาคำเสนอซื้อของบริษัทผู้ซื้อ โดยถือตามอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินบาทและดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ที่คาดว่าจะมีการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จประมาณวันที่ 30 มิถุนายน 2556

โบรกฯ มองดีลเอื้อช่วยต่อยอดธุรกิจแต่ D/E พุ่ง

นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ยอมรับว่า การที่ราคาหุ้น CPALL ร่วงลงเยอะวานนี้ แต่กลับมีมูลค่าซื้อขายอันดับหนึ่ง เพราะปัจจัยที่กดดันต่อราคาหุ้นที่มาจากการที่คาดว่า บริษัทจะต้องใช้เงินจำนวนมาก หากจะเข้าซื้อกิจการแม็คโครในครั้งนี้ แต่สิ่งที่นักลงทุนกังวลคือขายหุ้นให้กับใคร ซึ่งมีกระแสข่าวลือ ทั้งเบอร์ลี่ฯ ซีพีออลล์ เซ็นทรัล แต่ยังไม่มีการยืนยันว่า ใครจะเป็นผู้รับซื้อที่ชัดเจน ล่าสุด นักลงทุนคาดการณ์ว่าซีพีออลล์จะเป็นผู้รับซื้อหุ้นในครั้งนี้

“ราคาหุ้นซีพีออลล์ปรับตัวลงทันที และมีวอลุ่มหนาแน่น เพราะมีการคาดการณ์ว่าจะเป็นผู้รับซื้อหุ้นทำให้นักลงทุนที่ถือหุ้นกังวลใจ เพราะมูลค่ารายการของหุ้นแม็คโคร หากทำรายการจริงตามที่เป็นข่าว มูลค่ารายการจะอยู่ที่ 1.9 แสนล้านบาท ต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก หากพิจารณาพื้นฐานซีพีออลล์ มีกระแสเงินสด 2 หมื่นล้านบาท ไม่พอต่อการทำรายการ จำเป็นต้องระดมทุนครั้งใหญ่ นักลงทุนจึงตื่นเทขายหุ้นออกมา”

ทั้งนี้ ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา โครงสร้างผู้ถือหุ้น สยามแม็คโคร ประกอบด้วย บริษัท สยามแม็คโคร โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) 55.1% ออร์แคม โฮลดิ้ง เอเชีย เอ็น.วี. 9.34% ไทยเอ็นวีดีอาร์ 3.78% และ บีเอ็นพี พาริบาส์ ซิเคียวริตี้ฯ 3.21%

ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์รายหนึ่งกล่าวว่า ดีลที่เกิดขึ้นเป็นมูลค่าที่สูง ทำให้ CPALL ต้องระดมทุนจำนวนมาก และมีผลลต่ออัตราหนี้สินต่อทุนปรับตัวขึ้นไปในระดับที่สูง อย่างไรก็ตาม มองว่านี่คือการต่อยอดธธุรกิจ และช่วยเสริมศักยภาพของกันและกัน อีกทั้งสาขาของ MAKRO ที่กกระจายอยู่ทั่ววประเทศ ล้วนเป็นทำเลที่มีศักยภาพ เชื่อว่าการต่อยอดรายได้ด้านธุรกิจอสังหาฯ ผ่านการเช่าพื้นที่ หรือสร้างอาคารเพิ่มเติมน่าจะเกิดขึ้น และมีผลบวกตต่อรายได้ของทั้ง 2 บริษัท

คาดมี M&A อีกแต่ไม่ใหญ่เท่านี้

น.ส.วรดา ตั้งสืบกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธ.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารยังคงมีดีลการซื้อขายกิจการ และการควบรวมกิจการต่อเนื่อง แต่ขนาดจะไม่ใหญ่เท่ากับดีลที่ บมจ.ซีพี ออลล์ ซื้อหุ้น บมจ.สยามแม็คโคร

“ดีล M&A ธนาคารยังมีอย่างต่อเนื่อง มีขนาดเป็นหลักหมื่นล้านบาท แต่คงไม่ใหญ่มากเท่ากับดีลนี้”  

ทั้งนี้ SCB เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับ CPALL เพื่อเข้าซื้อหุ้น MAKRO ซึ่งถือว่าเป็นดีลการซื้อขายกิจการในประเทศที่ใหญ่ที่สุด 

น.ส.วรดา กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารมีดีลเป็นที่ปรึกษากองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ประมาณ 2-3 ดีล แต่จะมี 1 ดีล ที่เป็นดีลขนาดใหญ่ มีมาร์เกตแคปประมาณ 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นได้ในไตรมาส 3 

นอกจากนี้ ยังมีดีลการเป็นที่ปรึกษาการจัดตั้งกองทุนทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์(REIT)อีก 2 ดีล ซึ่ง 1 ดีล มีมาร์เกตแคปราว 1 หมื่นล้านบาท และอีก 1 ดีล มีมาร์เกตแคปราว 6 พันล้านบาท  
 
SCB พร้อมปล่อยกู้กลุ่มซีพี   
 
นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส SCB  กล่าวว่า ขณะนี้ธนาคารได้ปล่อยกู้ให้แก่กลุ่มซีพีไปแล้ว 7-8 หมื่นล้านบาท และยังสามารถปล่อยกู้ได้อีก เนื่องจากได้มีการขออนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อขยายวงเงินปล่อยกู้ต่อกลุ่มซีพี จากเดิม 25% เป็น 60% ของเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงที่มีอยู่ประมาณ 2.5 แสนล้านบาท  
กำลังโหลดความคิดเห็น