ทองคำพลิกกลับมาบวกเพิ่ม 50 บาท จากช่วงเช้าร่วงลงไปอีก 350 บาท รวมทั้งวันปรับตัวขึ้น 400 บาท ภาพรวมระยะสั้นปัจจัยลบจากการเทขายของกองทุนต่างประเทศยังกดดัน แต่นักลงทุนไทยยังซวยซ้ำเมื่อบาทแข็งเข้ามากดราคาทองในประเทศลดลงอีก คาดหากยังไม่ผ่าน 1,400 เหรียญ/ออนซ์ ทิศทางยังเป็นขาลบ “กลุ่มแม่ทองสุก” ย้ำสถานะแกร่ง เตรียมการพร้อมตั้งแต่ช่วงหยุดเทศกาล ช่วยลูกค้าลดผลกระทบจากวิกฤตได้เกือบ 100%
รายงานข่าวแจ้งว่า จากราคาทองคำที่ปรับตัวลดลงอย่างหนักตั้งแต่วันก่อน พอเปิดการซื้อขายวันนี้ (18 เม.ย.) ก็ปรับตัวลดลงอีก 350 บาท อย่างไรก็ตาม ระหว่างวัน สมาคมค้าทองคำมีการปรับเพิ่มราคาทองคำอย่างต่อเนื่อง 9 ครั้ง ล่าสุด 16.37 น. มาอยู่ที่ขาย 19,000 บาท รับซื้อ 18,900 บาท บวกเพิ่ม 50 บาท ขณะที่รูปพรรณขาย 19,400 บาท รับซื้อ 18,631 บาท
นักวิเคราะห์เชื่อว่า ส่วนหนึ่งมาจากดีมานด์ความต้องการทองคำเพื่อสะสมเก็งกำไรของนักลงทุนที่มีขึ้นมามาก จนสินค้าที่มีอยู่ไม่เพียงพอ จนบางร้านต้องออกใบจองเพื่อมารับทองคำในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะโอกาสปรับตัวลดลงของราคายังมีอยู่
นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวถึงภาพรวม ณ ขณะนี้ว่า ราคาทองคำที่ปรับลงช่วงเช้า 350 บาท ก็รีบาวนด์ขึ้นมา 400 บาท รวมคือราคาปรับเพิ่มขึ้นจากวันก่อน 50 บาทแล้ว นอกจากดีมานด์ความต้องการทองคำของนักลงทุนที่มากขึ้น ยังมาจากความผันผวนของค่าเงินบาทด้วย ซึ่งตอนนี้ราคาทองคำโลกเริ่มมาทดสอบแนวต้านที่ 1,395 เหรียญ/ออนซ์แล้ว หลังจากขึ้นไปทดสอบ 1,400 เหรียญ/ออนซ์ ถึง 2 ครั้งยังไม่สามารถผ่านไปได้
“สิ่งที่นักลงทุนต้องจับตาคือ การปรับตัวของราคาทองคำคืนนี้ หากทะลุ 1,400 เหรียญ/ออนซ์ ได้ ก็จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาอีกเล็กน้อย หากไม่สำเร็จ ทิศทางและแนวโน้มยังอยู่ขาลง ซึ่งแนวรับต่ำสุดเรามองไว้ที่ 1,375 เหรียญ และ 1,330 เหรียญ โดยด้านปัจจัยพื้นฐาน กองทุนทองคำ SPDR และเฮดจ์ฟันด์ รวมถึงกองทุนต่างๆ ที่ถือทองคำอยู่ยังขายทองคำออกมา ทำให้โอกาสปรับตัวลดลงยังมีอยู่มาก จึงต้องเตือนนักลงทุนถือเงินสดรอดูาสถานการณ์ หรือ Shrot Position ดีกว่า”
นายณัฐพงศ์ กล่าวเสริมว่า นักลงทุนไทยกำลังโดยปัจจัยลบกดดัน 2 ทาง นั่นคือ การเทขายทองคำจากกองทุนขนาดใหญ่ในต่างประเทศกดราคาทองคำลดลง ขณะเดียวกัน ปัจจัยลบในประเทศขณะนี้คือ การแข็งค่าของเงินบาท ที่มาอยู่ที่ 28.73 บาท/เหรียญสหรัฐ เข้ามากดดันราคาให้ปรับตัวลดลงเพิ่ม โดยหากบาทยังแข็งค่าต่อไปอีกก็จะมีผลต่อราคาทองคำยิ่งขึ้น
“เราพาลูกค้าของทั้งกลุ่มหนีออกจากวิอกฤตนี้ได้เกือบ 100% จึงมีลูกค้าที่ขาดทุนจากเหตุการร์ดังกล่าวประมาณ 5% จากลูกค้าทั้งหมด หน้าที่ของโบรกเกอร์ไม่ใช่แค่รับซื้อขาย เราต้องช่วยลูกค้าบริหารความเสี่ยงจากการลงทุนด้วย บางรายต้องยอมขาดทุนบ้างเล็กน้อย ดีกว่าปล่อยให้ขาดทุนไปทั้งหมด ช่วงวันหยุดเราทำงานกันตลอด”
ย้ำแม่ทองสุก-สถานะแกร่ง ลูกค้ามั่นใจได้
ขณะเดียวกัน ในส่วนภาพรวมธุรกิจของกลุ่มแม่ทองสุก นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า ได้เตรียมรับมือกับเรื่องดังกล่าวมาตั้งแต่ช่วงหยุดเทศกาลสงกรานต์ ทำให้ลูกค้าของบริษัททั้งในการลงทุนทองคำแท่ง และโกลด์ ฟิวเจอร์ส ได้รับผลกระทบในครั้งนี้น้อยกว่าที่หลายๆ ฝ่ายหวั่นวิตก โดยมีเพียง 5% ของลูกค้าทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงของราคาทองคำในรอบนี้
นอกจากนี้ จากข่าวลือที่มีออกมาว่า ร้านททองคำบางแห่งอาจถึงขั้นขาดทุน โดยส่วนตัวมองว่า อาจมีบ้างหากร้านไหนไม่มีการบริหารความเสี่ยงที่ดี ไม่มีการทำเฮดจิ้งกับสต๊อกทองคำของตนเองไว้ ก็จะได้รับผลกระทบหนัก ในส่วนของกลุ่มแม่ทองสุก ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมาตลอด จึงไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้มากนัก โดยมีเพียงในส่วนทองคำรูปพรรณที่ได้รับกระทบจากราคาปรับลงในบางส่วน เนื่องจากมีต้นทุนในการผลิตที่สูง
