xs
xsm
sm
md
lg

บาทแข็งที่4ของโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - เงินบาททะยานแข็งค่า 2.5% ติดอัน 4 ของโลก รองจาก "ไอซ์แลนด์-เม็กซิโก-มาเลเซีย" ค่าความผันผวนอยู่ระดับกลางที่ 5% แบงก์ชาติเผยเงินทุนจากญี่ปุ่นแม้จะไหลเข้าไทยมากแต่ยังเป็นรองเม็กซิโก "ประสาร" ระบุนายกฯ สั่งจับตาค่าเงินใกล้ชิด ปลัดคลังมั่นใจแบงก์ชาติพร้อมออกมาตรการ หากบาทแข็งค่าไม่เลิก ส่วน "บุญทรง" นัดตัวแทน กกร.ถกค่าบาทแข็งช่วยส่งออก

นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า เงินทุนมาจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ไม่ใช่ไทยจะเป็นฝ่ายตั้งรับเงินทุนไหลเข้าเพียงฝ่ายเดียว โดยขณะนี้เงินทุนไหลเข้าประเทศเม็กซิโกค่อนข้างมากและมองว่าการแข็งค่าเงินบาทช่วงนี้เป็นพัฒนาการของภาวะค่าเงินบาทไทยแข็งตีตื้นขึ้นจากปีก่อนที่แข็งน้อยกว่าประเทศในกลุ่มเอเชีย ซึ่งปีก่อนเงินวอนเกาหลีใต้แข็งค่า 7-8% ขณะที่เงินบาทแข็งค่า 3%
เมื่อเทียบในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา พบว่า สกุลเงินโครนาไอซ์แลนด์แข็งค่า 6.7% สกุลเงินเปโซเม็กซิกันแข็งค่าขึ้น 4% ริงกิตมาเลเซียแข็งค่าขึ้น 2.6% ขณะที่เงินบาทไทยแข็งค่า 2.5% ซึ่งเป็นการแข็งค่าอันดับ 4 ของโลก และเป็นรองเฉพาะริงกิตมาเลเซียในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งแต่ละประเทศในภูมิภาคนี้ต่างก็มีปัจจัยเฉพาะตัวอย่างมาเลเซียก็จะมีการเลือกตั้ง ขณะที่เกาหลีเหนือก็มีข่าวทดสอบขีปนาวุธ เป็นต้น
ขณะที่ค่าความผันผวนของสกุลเงินต่างๆ เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเทียบกับสิ้นปีก่อนจนถึงปัจจุบัน พบว่า เงินบาทไทยมีค่าความผันผวน 5% ถือว่าอยู่ระดับกลางเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคเอเชียด้วยกัน แต่ในส่วนของค่าเงินเยนมีค่าความผันผวนค่อนข้างสูงถึง 12% อย่างไรก็ตาม เงินบาทมีค่าความผันผวนเพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อนที่ไม่ได้ผันผวนมากเท่านี้ แต่การเคลื่อนไหวค่าเงินที่วิ่งเป็นไป 2 ทิศทาง คือ มีทั้งช่วงที่เงินบาทแข็ง-อ่อน จึงส่งผลให้ค่าความผันผวนเงินบาทไทยเพิ่มขึ้นบ้าง
ผู้ช่วยผู้ว่าการธปท.กล่าวเพิ่มเติมว่า เงินทุนไหลเข้าประเทศเม็กซิโกค่อนข้างมาก เนื่องจากประเทศจีนมีการปรับขึ้นค่าแรงค่อนข้างมาก ทำให้บริษัทอเมริกันที่ลงทุนในจีนหันไปลงทุนในทวีปอเมริกาเหนือ โดยเฉพาะประเทศเม็กซิโกที่เห็นว่ามีความคุ้มค่ามาก จึงมีการย้ายฐานการผลิต ทำให้สกุลเงินเปโซเม็กซิกันแข็งค่าค่อนข้างมากในขณะนี้

***นายกฯ สั่ง ธปท.จับตาใกล้ชิด
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวภายหลังเข้าร่วมประชุมทีมบริหารนโยบายเศรษฐกิจ รัฐบาล มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นประธาน ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงการแข็งค่าของเงินบาท พร้อมสั่งให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และวางมาตรการดูแลให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม
ทั้งนี้ ยอมรับว่าค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วจนเกินไป ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการส่งออกบ้าง แต่จากผลการศึกษา ปัจจัยจากค่าเงินไม่ได้กระทบการขยายตัวของภาคการส่งออกมากเท่ากับภาวะเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญชะลอ อย่างไรก็ตามได้ขอความร่วมมือไปยังธนาคารพาณิชย์ให้ช่วยอำนวยความสะดวกกับผู้ประกอบการด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน เช่น การซื้อป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน การบริหารความเสี่ยงต่างๆ รวมทั้งได้สั่งการให้มีการติดตามการไหลเข้าของเงินทุนเคลื่อนย้ายว่ามีความผิดปกติหรือไม่อย่างใกล้ชิดด้วย
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการประชุมดังกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่ง ธปท.ได้มีการเตรียมมาตรการต่าง ๆ ไว้เพื่อดูแลแล้วหากเงินบาทแข็งค่ามากกว่านี้ไปจนถึงระดับหนึ่ง
"ถ้าเงินบาทแข็งค่า ณ จุดใดจุดหนึ่ง ก็จะมีการดำเนินการตามมาตรการที่มี ซึ่ง ธปท.ได้มีการเตรียมการไว้แล้ว" ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวและว่า สาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากและรวดเร็วเกินไปในระยะนี้ มีสาเหตุจากธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศมาตราการผ่อนคลายทางการเงินเหนือความคาดหมายของตลาด ทำให้มีปริมาณเงินไหลเข้ามามาก โดยผู้ว่าการ ธปท.รายงานว่ามีเงินไหลจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในตลาดพันธบัตรและเป็นเงินลงทุนระยะยาว แต่ยอมรับว่าหากเงินบาทแข็งค่าขึ้นกว่านี้ ธปท.ก็พร้อมจะใช้มาตรการตามกระบวนการของ ธปท.ในการเข้าดูแล
ในขณะที่กระทรวงการคลังจะเข้าไปดูแลในลักษณะการไหลเวียนของเงินทุน เช่น กรณีที่รัฐวิสาหกิจที่จะมีการกู้เงินต่างประเทศก็จะมีการลดการกู้เงินต่างประเทศ รวมถึงการรีไฟแนนซ์เงินกู้ต่างประเทศก่อนกำหนด โดยอาศัยจังหวะเงินบาทแข็งค่า ซึ่งปีนี้มีรัฐวิสาหกิจที่จะต้องชำระค่านำเข้าสินค้าต่างประเทศ มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาทก็จะมีการเร่งรัดในเรื่องนี้ ขณะเดียวกันการออกพันธบัตรของกระทรวงการคลังจะเน้นให้ประชาชนเข้าถึงพันธบัตรให้มากขึ้นเพื่อเป็นการดึงเงินออมให้มากขึ้น

***พาณิชย์นัดผู้ส่งออกถกบาทแข็ง
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กำลังอยู่ระหว่างการนัดหมายตัวแทนจากคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เพื่อร่วมหารือและรับฟังปัญหาผลกระทบจากปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่า และปัญหาอื่นที่มีผลต่อการส่งออก คาดว่าจะประชุมภายในสัปดาห์แรกหลังเทศกาลสงกรานต์ และยังได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ รายงานสถานการณ์และจัดหาแหล่งวัตถุดิบ เพื่อให้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า ส่วนการรับตัวเลขเป้าหมายการส่งออกทั้งปีที่ตั้งไว้ 8-9% ต้องดูสถานการณ์การส่งออกในเดือนมี.ค.นี้ก่อน รวมทั้งต้องประมวลผลร่วมกับภาคเอกชนอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น