xs
xsm
sm
md
lg

ธปท.รีดข้อมูลต่างชาติซื้อบอนด์ จับตากลุ่มถือระยะสั้น-ส่อเก็งกำไร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ธปท.เผยขอข้อมูล Custodian ให้รายงานธุรกรรมการถือครองพันธบัตรของนักลงทุนต่างชาติ หลังต่างชาติเข้ามาถือพันธบัตรมาก ระบุเป็นการแยกประเภทนักลงทุน และดูระยะเวลาการถือครอง เพื่อให้ได้ทราบข้อมูลว่าการลงทุนที่เกิดขึ้นเป็นการลงทุนจริง หรือเข้ามาเก็งกำไร ย้ำการทำแบบนี้เหมือนเป็นการปราบนักลงทุนต่างชาติอย่างหนึ่ง

นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ได้ขอความร่วมมือผู้ดูแลหลักทรัพย์(Custodian) ซึ่งมีประมาณ 3-4 ราย ให้รายงานธุรกรรมการถือครองพันธบัตรของนักลงทุนต่างชาติ หลังจากในช่วงที่ผ่านมา ต่างชาติซื้อขายพันธบัตรค่อนข้างมากส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยข้อมูลที่ได้มาจะนำมาแยกว่าผู้ลงทุนในพันธบัตรเป็นนักลงทุนประเภทไหน และระยะเวลาการถือครองพันธบัตรยาวแค่ไหน เพื่อให้ทราบว่าการลงทุนที่เกิดขึ้นเป็นการลงทุนจริง หรือเก็งกำไรหรือไม่

“ธปท.ได้ขอข้อมูลไปครั้งแรกก่อน ส่วนต่อไปจะขอแบบรายวัน รายเดือน หรือทุกกี่วันกี่เดือนก็ต้องดูอีกทีหนึ่ง เพื่อให้ได้ข้อมูลชัดเจน และมีความลึกมากขึ้น ซึ่งทำลักษณะนี้เหมือนกับการปราบนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาเก็งกำไรด้วย” รองผู้ว่าการ ธปท. กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม จากการติดตามตลาดการเงินเมื่อวานนี้ (11 เม.ย.) เงินบาทอ่อนค่าลงตั้งแต่ช่วงเปิดตลาดที่ผ่านมาแล้ว

รองผู้ว่าการ ธปท.กล่าวเพิ่มเติมว่า การขอข้อมูลจาก Custodian ในครั้งนี้ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท.ได้รายงานในการประชุมคณะทำงานกำกับการบริหารนโยบายเศรษฐกิจ ซึ่งหน่วยงานด้านเศรษฐกิจประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา โดย ธปท.ได้รายงานภาวะค่าเงินบาท และสถานการณ์เงินทุนเคลื่อนย้ายให้รับทราบความคืบหน้าในการดูแล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนพันธบัตรไทยค่อนข้างมาก โดยเฉพาะพันธบัตรภาครัฐ และพันธบัตร ธปท.โดยล่าสุดในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 2,913 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยภาครัฐมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 348 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการเข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ภาคธนาคารกลางมีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 275 ล้านเหรียญสหรัฐ ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าที่มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิมากถึง 1,943 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการกลับเข้ามาซื้อตราสารหนี้ระยะสั้นที่ครบกำหนดไถ่ถอนไปเมื่อปลายปีก่อน

ขณะเดียวกัน ภาคสถาบันการเงินก็มีเงินทุนไหลเข้าสุทธิ 3,616 ล้านเหรียญสหรัฐ จากการกู้เงินระยะสั้นจากต่างประเทศ เพื่อบริหารสภาพคล่องในธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีเงินไหลเข้าจากการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศประมาณ 695 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในภาคการผลิต เช่น การผลิตโลหะขั้นมูลฐาน และผลิตภัณฑ์ยางและพลาสติก

สำหรับค่าเงินบาทวานนี้ปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 29.03-29.05 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าเล็กน้อยจากเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 29.06-29.08 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยระหว่างวันเงินบาทแข็งค่าสุดอยู่ที่ 28.97 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และอ่อนค่าสุดที่ 29.06 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยวันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวไว้ในกรอบระหว่าง 29.00-29.10 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
กำลังโหลดความคิดเห็น