“อารีพงศ์” ชี้แจง กมธ. ยืนยัน พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน คุ้มค่าการลงทุน

“ปลัดคลัง” ชี้แจง กมธ. ยืนยัน พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท คุ้มค่าแก่การลงทุนเตรียมพร้อมประเทศ ย้ำทยอยกู้ในประเทศเป็นหลัก และวงเงินกู้จะเหมาะสมกับแต่ละโครงการลงทุน โดยปีแรกวงเงินกู้ระดับหมื่นล้านบาท ส่วนปีที่ 2 วงเงินกู้ระดับแสนล้านบาท

นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท กำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งได้มีการประชุมไปแล้ว 2 ครั้ง โดยคณะกรรมาธิการฝ่ายค้านส่วนใหญ่มีความเป็นห่วงถึงความคุ้มค่าของโครงการลงทุน และผลตอบแทนที่จะได้รับ ซึ่งรัฐบาลได้สั่งการให้กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นผู้ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ

ทั้งนี้ สศช.ได้ชี้แจงถึงร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวว่า จะทำให้โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และยังทำให้โครงการลงทุนมีความต่อเนื่องมากกว่าการทำเป็นงบประมาณผูกพัน เนื่องจากเป็นโครงการลงทุนขนาดใหญ่ และใช้ระยะเวลา 7 ปี ขณะที่งบผูกพันเหมาะสำหรับโครงการลงทุนขนาดเล็ก และมีระยะเวลาลงทุนประมาณ 3 ปี

ส่วนการกู้เงินเพื่อใช้ลงทุนในโครงการนั้นจะทยอยกู้เงินในประเทศเป็นหลัก และวงเงินกู้จะเหมาะสมกับแต่ละโครงการลงทุน โดยปีแรกวงเงินกู้ระดับหมื่นล้านบาท ส่วนปีที่ 2 วงเงินกู้ระดับแสนล้านบาท

ทั้งนี้ หลังจากที่ไทยประกาศแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ ทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น จากช่วงก่อนหน้านี้ที่นักลงทุนสนใจลงทุนในอินโดนีเซียมากที่สุด เพราะมีเสถียรภาพทางการเมือง และเป็นประเทศที่มีประชากรจำนวนมากถึง 200 ล้านคน และมองว่าขณะนี้ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ดังนั้น ไทยจะต้องเร่งเตรียมความพร้อม เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

ปลัดกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระยะเวลา 7 ปี ไม่จำเป็นต้องปรับโครงสร้างภาษี เพื่อเพิ่มการจัดเก็บรายได้ให้แก่รัฐบาลไว้สำหรับรองรับการลงทุน เพราะเชื่อว่ารัฐบาลจะบริหารจัดการเม็ดเงินลงทุนให้มีความสอดคล้องกับโครงการลงทุนในแต่ละปีได้