วี จี ไอ โกลบอลฯ ปรับเป้าหมายการเติบโตปี 56/57 จาก 15-20% เป็น 30% หลังประเมินธุรกิจสื่อไลฟ์สไตล์เติบโตสูง ทั้งบนระบบบีทีเอส โมเดิร์นเทรด และอาคารสำนักงาน พร้อมทั้งแจงการใช้เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนแล้วทั้งจำนวน 113 ล้านบาท เผยรั้ว และประตูอัตโนมัติบนขอบชานชาลารถไฟฟ้าบีทีเอส สร้างรายได้แล้ว ขณะที่สถานีอโศก ชิดลม และศาลาแดงกำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ
นายมารุต อรรถไกวัลวที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ผู้นำธุรกิจให้บริการเครือข่ายสื่อโฆษณาที่สอดคล้องกับรูปแบบการดำเนินชีวิตในยุคสมัยใหม่ (Lifestyle Media) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2555/2556 (1 เม.ย. 55-31 มี.ค.56) คาดว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 40% จากปีก่อน
ขณะที่ในงวด 9 เดือนแรก บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,167 ล้านบาท กำไรสุทธิ 684 ล้านบาท และจากการประเมินการเติบโตของธุรกิจโฆษณา โดยเฉพาะการขยายตัวของสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน (Mass Transit Media) และสื่อโฆษณาในโมเดิร์นเทรด (Modern Trade Media) ประกอบกับแผนงานการตลาดเชิงรุกของ VGI แล้ว บริษัทฯ ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2556/2557 (1 เม.ย.56-31 มี.ค.57) เป็น 30% จากก่อนหน้านี้ที่ตั้งไว้ว่าจะโต 15-20% จากปี 2555/2556
“เป้าหมายการเติบโตดังกล่าวจะมาจากการเติบโตของสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน ประมาณ 20% จากสื่อโฆษณาในโมเดิร์นเทรด ประมาณ 40% และสื่อโฆษณาในอาคารสำนักงาน (Office Building Media) และอื่นๆ จะโตประมาณ 20%” นายมารุตกล่าว
นอกจากนี้ นายมารุต ยังได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการใช้เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุน ซึ่งเป็นการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก และนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อเดือนตุลาคม 2555 ว่า ได้ใช้เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนไปแล้วประมาณ 113 ล้านบาท โดยได้ดำเนินการตามที่แจ้งวัตถุประสงค์การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนไว้ ซึ่งโครงการแรก ใช้เงินระหว่างงวดไปแล้ว 81 ล้านบาท สำหรับการลงทุนในรั้ว และประตูอัตโนมัติบนขอบชานชาลารถไฟฟ้าบีทีเอส หรือ Platform Screen Doors ซึ่งรวมถึงสื่อโฆษณาดิจิตอล (Digital) บน Platform Screen Doors ด้วย โดยความคืบหน้าล่าสุดนั้น ได้ดำเนินการบนชานชาลารถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสยามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนสถานีอโศก ชิดลม ศาลาแดง กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งนี้ บริษัทฯ เลือกดำเนินการในสถานีที่อยู่ในใจกลางธุรกิจ และมีจำนวนผู้ใช้บริการมากก่อน เนื่องจากคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นลำดับแรก
“ขณะนี้ที่ชานชาลารถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีสยาม ได้มีการติดตั้ง Platform Screen Doors เสร็จเรียบร้อยแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงได้เห็น ส่วนสถานีอื่นๆ เราก็ทยอยดำเนินการ ซึ่งนอกจากจะทำเพื่อความปลอดภัยแล้ว ยังถือเป็นสื่อโฆษณาของวีจีไอด้วย โดยคาดว่าจะมีรายได้จากการบริหารสื่อดิจิตอลบน Platform Screen Doors ประมาณปีละ 36 ล้านบาท ที่จะเพิ่มเติมเข้ามา” นายมารุตกล่าว
สำหรับอีก 2 โครงการที่ได้เริ่มลงทุนไปแล้ว ประกอบด้วย การลงทุนเพิ่มเติมในระบบเครือข่ายสื่อดิจิตอล และสื่อภาพนิ่งในระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส และในโมเดิร์นเทรด ซึ่งใช้เงินลงทุนงวดแรก 22 ล้านบาท และการลงทุนในซอฟต์แวร์ระบบงานทางธุรกิจ และพัฒนาปรับปรุงโครงข่ายไอทีสารสนเทศให้รองรับการเติบโตของธุรกิจอีก 10 ล้านบาทประธานเจ้าหน้าที่บริหาร VGI ยังย้ำให้นักลงทุน และผู้ถือหุ้นของ VGI มั่นใจว่า เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนจะถูกใช้อย่างเต็มศักยภาพ และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่แจ้งไว้ตั้งแต่เสนอขายหุ้นเพิ่มทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคตให้แก่ผู้ถือหุ้น และสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงโอกาสในการขยายธุรกิจของบริษัทฯ
โดยการเติบโตของ VGI สอดคล้องกับภาพรวมธุรกิจสื่อโฆษณาที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างชัดเจน โดยสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทยได้มีการประเมินไว้ว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาในปี 56 จะเติบโตมากกว่า 10% หรือคิดเป็นมูลค่า 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งสื่อโฆษณาที่ได้รับความนิยมในปีนี้ ได้แก่ สื่อเคเบิลทีวี และทีวี ดิจิตอล ที่มีแนวโน้มว่าผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่จะหันไปใช้สื่อโฆษณาดังกล่าวมากขึ้น เนื่องจากใช้งบที่ต่ำกว่าสื่อฟรีทีวี และเป็นช่องทางที่มีผู้ชมจำนวนมาก
ทั้งนี้ ตามข้อมูลของ นีลเส็น (ประเทศไทย) ระบุว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมโฆษณาในปี 55 ที่ผ่านมา มีมูลค่าสื่อโฆษณารวม 1.2 แสนล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชนมีส่วนแบ่งทางการตลาด 2.5% คิดเป็นมูลค่าตลาด 2.96 พันล้านบาท และธุรกิจสื่อโฆษณาในโมเดิร์นเทรด มีส่วนแบ่งทางการตลาด 2.3% คิดเป็นมูลค่าตลาดประมาณ 2.73 พันล้านบาท
