xs
xsm
sm
md
lg

เผยอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยวชายทะเลผลตอบรับดี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ” เผยผลสำรวจอสังหาฯ เมืองท่องเที่ยวชายทะเล ชลบุรี-ระยอง และหัวหิน-ชะอำ-ปราณบุรี พบหน่วยเสนอขายกว่า50% สามารถขายออกได้หมดแล้ว ชี้อัตราการระบายออกในทุกพื้นที่ยังดี หากไม่มีการพัฒนาโครงการใหม่เสนอขายในตลาดเพิ่ม คาดใช้เวลาในการระบายออกไม่เกิน 13 เดือนขายหมดทุกพื้นที่ ชี้บ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮาส์-บ้านตากอากาศ ยังมีสัดส่วนสูงที่สุด ขณะน้องใหม่คอนโดฯ แนวโน้มขยายตัวสูง การระบายออกดี

นายสัมมา คีตสิน ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า จากข้อมูลการสำรวจภาคสนามในปี 2555 ของโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย เฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย ในโครงการที่พัฒนาในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวชายทะเล พบว่า ในจังหวัดชลบุรี มีหน่วยที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขาย96,600 หน่วย

โดยบ้านจัดสรรมีหน่วยที่อยู่ระหว่างขาย 39,800 หน่วย จาก 363 โครงการ มีมูลค่าโครงการ 113,000 ล้านบาท ซึ่งขายได้แล้ว 27,500 หน่วย คิดเป็น 69% หรือมูลค่าที่ขายได้ 76,900 ล้านบาท และมีหน่วยเหลือขาย 12,300 หน่วย มูลค่า36,100 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ มี 256 โครงการ 26,400 หน่วย ที่เปิดขายตั้งแต่ปี 2553 โดยบ้านจัดสรร 36% เป็นทาวน์เฮาส์ห รือบ้านเดี่ยวชั้นเดียว ราคา 1-2 ล้านบาท และ 72% ราคา 2-5 ล้านบาท

ทั้งนี้ พบว่าโครงการบ้านจัดสรรที่เปิดขายมาที่สุดอยู่ในอำเภอศรีราชา 13,000 หน่วย อำเภอบางละมุง 11,200 หน่วย อำเภอเมือง 8,100 หน่วย อำเภอสัตหีบ 4,700 หน่วย และอำเภอพานทอง 2,900 หน่วย หากแบ่งตามประเภท จะเป็นบ้านเดี่ยว 19,500 หน่วย ทาวน์เฮาส์ 11,700 หน่วย บ้านแฝด 5,000 หน่วย และอาคารพาณิชย์ 3,500 หน่วย

สำหรับอัตราการดูดซับของบ้านจัดสรรในชลบุรีอยู่ที่ 6.3% ซึ่งหากไม่มีการเปิดขายโครงการใหม่เลย จำนวนหนวยที่เหลือดังกล่าวจะรองรับความต้องการได้ประมาณ 16 เดือน ส่วนสถานะของการก่อสร้างพบว่า หน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 4,100 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้างประมาณ 12,800 หน่วย และส่วนใหญ่ก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 23,000 หน่วย โดยจากหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ มีเหลือขาย 2,100 หน่วย

นายสัมมา กล่าวว่า ที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุดที่อยู่ระหว่างการขาย จำนวน 56,400 หน่วย จาก 217 โครงการ มูลค่ารวม 170,200 ล้านบาท ขายแล้ว 37,400 หน่วย มูลค่ารวม 113,800 ล้านบาท คิดเป็น 66% ของหน่วยเสนอขายทั้งหมด ส่วนหน่วยเหลือขายมี 19,000 หน่วย มูลค่ารวม 56,400 ล้านบาท

โดยมีหน่วยการเสนอขายโครงการอาคารชุดทั้งหมด แบ่งตามพื้นที่ พบว่า ในอำเภอบางละมุง มีหน่วยเสนอขาย 42,400 หน่วย อำเภอเมือง 8,500 หน่วย อำเภอสัตหีบ 3,600 หน่วย และอำเภอศรีราชา 1,900 หน่วย โดยในจำนวนทั้งหมดเป็นห้องแบบสตูดิโอ14,300 หน่วย แบบ 1 ห้องนอน 35,700 หน่วย แบบ 2 ห้องนอน 5,600 หน่วย และ 3 ห้องนอน 800 หน่วย ขณะที่อัตราการดูดซับของห้องชุดในชลบุรีอยู่ที่ประมาณ 7.8% หรือหากไม่มีการเปิดขายโครงการใหม่เลย ซัปพลายที่มีอยู่จะขายหมดใน 13 เดือน

สำหรับสถานะของการก่อสร้างพบว่า หน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างมี 12,100 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้าง 32,300 หน่วย และก่อสร้างแล้วเสร็จ 11,900 หน่วย โดยในจำนวนหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ มีจำนวนห้องชุดเหลือขาย 2,300 หน่วย ส่วนในที่อยู่อาสัยบ้านพักตากอากาศ หรือวิลลา นับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายอย่างน้อย 1 หน่วย มีจำนวน10 โครงการ หรือมีจำนวนหน่วยรวม 400 หน่วย อยู่ในอำเภอบางละมุง 250 หน่วย และอำเภอสัตหีบ 150 หน่วย

“จากจำนวนหน่วยทั้งหมดนี้ ขายได้แล้ว 190 หน่วย หรือขายแล้ว 47% ของหน่วยในผังทั้งหมด โดยเป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้าง 90 หน่วย อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 130 หน่วย และก่อสร้างแล้วเสร็จ 200 หน่วย ทั้งนี้ หน่วยสร้างเสร็จเหลือขายมี 20 หน่วย”

อสังหาฯ ระยอง เสนอขาย 12,600 หน่วย พบขายแล้ว 65%

ส่วนในจังหวัดระยอง มีหน่วยที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขาย 12,600 หน่วย โดยเป็นหน่วยของโครงการบ้านจัดสรรซึ่งอยู่ระหว่างการขาย 10,400 หน่วย แบ่งเป็นโครงการจัดสรร 106 โครงการ มีมูลค่า 23,700 ล้านบาท ขายได้แล้ว 6,900 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 15,600 ล้านบาท หรือประมาณ 65% โดยมีหน่วยเหลือขาย 3,500 หน่วย มูลค่า 8,100 ล้านบาท ในจำนวนนี้มี 95 โครงการ ที่เปิดการขายตั้งแต่ปี 2553 ทั้งนี้ บ้านจัดสรรที่เสนอขายอยู่มีระดับราคา 1-2 ล้านบาท ประมาณ 47% และ 32% มีราคา 2-5 ล้านบาท

จากหน่วยในผังโครงการจัดสรรทั้งหมด แบ่งตามพื้นที่พบว่า อยู่ในอำเภอเมืองระยอง 4,500 หน่วย อำเภอปลวกแดง 3,500 หน่วย อำเภอบ้านฉาง 1,800 หน่วย และอำเภอนิคมพัฒนา 600 หน่วย หากแบ่งตามประเภท จะเป็นบ้านเดี่ยว 6,300 หน่วย เป็นทาวน์เฮาส์ 2,200 หน่วย เป็นบ้านแฝด 1,000 หน่วย และเป็นอาคารพาณิชย์ 800 หน่วย

อัตราการดูดซับของบ้านจัดสรรในระยองอยู่ที่ 7.3% หากไม่มีการเปิดขายหน่วยบ้านจัดสรรใหม่เลย คาดว่าจะสามารถระบายซัปพลายที่เหลือทั้งหมดได้ใน 14 เดือน สำหรับสถานะของการก่อสร้างพบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้าง 1,700 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้าง 3,600 หน่วย และก่อสร้างแล้วเสร็จ 5,100 หน่วย โดยจากหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ มีเหลือขายเพียง 300 หน่วย

ส่วนในประเภทอาคารชุด มีห้องชุดซึ่งอยู่ระหว่างการขาย 2,100 หน่วย จาก 20 โครงการ มูลค่ารวม 4,800 ล้านบาท ขายได้แล้ว 1,500 หน่วย หรือ 70% คิดเป็นมูลค่าที่ขายแล้ว 3,100 ล้านบาท เหลือขาย 600 หน่วย มูลค่า 1,700 ล้านบาท สำหรับห้องชุด 41% มีราคาเสนอขาย 1-2 ล้านบาท และ 11% ราคา 2-3 ล้านบาท อยู่ในอำเภอเมืองระยอง 1,500 หน่วย ส่วนที่เหลืออำเภอแกลง และอำเภอปลวกแดง

อัตราการดูดซับของห้องชุดในระยองอยู่ที่ 10.1% หรือหมายความว่าหากไม่มีการเปิดขายหน่วยห้องชุดใหม่เลย ตลาดจะขายได้หมดภายในระยะเวลาประมาณ 10 เดือน สำหรับสถานะของการก่อสร้าง พบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้างประมาณ 450 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้างประมาณ 900 หน่วย และสร้างเสร็จแล้วประมาณ 750 หน่วย

หน่วยเสนอขาย “ชะอำ-หัวหิน-ปราณบุรี” ขายแล้วกว่า 54%

นายสัมมา กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ชะอำ-หัวหิน-ปราณบุรี มีหน่วยประเภทบ้านจัดสรร 4,750 หน่วย จาก 69 โครงการ มูลค่ารวม 15,300 ล้านบาท ขายได้แล้ว 2,550 หน่วย คิดเป็น 54% ของหน่วยในผังทั้งหมด มูลค่าที่ขายได้แล้ว 8,600 ล้านบาท เหลือขาย 2,200 หน่วย มูลค่า 6,700 ล้านบาท ในจำนวนนี้มี 59 โครงการที่เปิดการขายตั้งแต่ปี 2553

ทั้งนี้ ระดับราคาต่อหน่วยบ้านจัดสรรค่อนข้างใกล้เคียงกันระหว่าง 1-2 ล้านบาท ระดับ 2-3 ล้านบาท และระดับ 3-5 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อแบ่งตามพื้นที่ พบว่า ในอำเภอหัวหินมีหน่วยเสนอขาย 3,250 หน่วย อำเภอปราณบุรี 800 หน่วย และอำเภอชะอำ 700 หน่วย อำเภอบ้านฉาง 1,800 หน่วย และอำเภอนิคมพัฒนา 600 หน่วย หากแบ่งตามประเภทจะเป็นบ้านเดี่ยว 3,100 หน่วย เป็นทาวน์เฮาส์ 650 หน่วย เป็นบ้านแฝด 600 หน่วย ที่เหลือเป็นอาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่า

อัตราการดูดซับของบ้านจัดสรรอยู่ที่ 5.9% หากไม่มีการเปิดขายหน่วยบ้านจัดสรรใหม่เลย ตลาดจะขายได้หมดภายในระยะเวลา 17 เดือน สำหรับสถานะของการก่อสร้างพบว่า เป็นหน่วยที่ยังไม่ก่อสร้าง 1,600 หน่วย อยู่ระหว่างก่อสร้าง 1,600 หน่วย และก่อสร้างแล้วเสร็จ 1,550 หน่วย โดยจากหน่วยที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ มีเหลือขาย 130 หน่วย

สำหรับที่อยู่อาศัยประเภทอาคารชุด มีห้องชุดซึ่งอยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 14,900 หน่วย มาจาก 48 โครงการ มีมูลค่าโครงการรวมกันทั้งสิ้น 67,600 ล้านบาท ขายได้แล้ว 8,000 หน่วย มูลค่าที่ขายได้ 36,900 ล้านบาท เหลือขาย 6,900 หน่วย มูลค่าเหลือขายรวม 30,700 ล้านบาท

ในจำนวนนี้มีห้องชุด 19% ที่มีราคาอยู่ระหว่าง 1-2 ล้านบาท คิดเป็น 18% และราคา 2-3 ล้านบาท 34% ส่วนที่เหลือราคาขาย 3-5 ล้านบาท โดยอยู่ในอำเภอชะอำ 9,300 หน่วย อำเภอหัวหิน 4,600 หน่วย และอำเภอปราณบุรี 1,000 หน่วย
กำลังโหลดความคิดเห็น