xs
xsm
sm
md
lg

“คลัง” การันตีฐานะ “เอสเอ็มอี-ไอแบงก์” ลั่นจะไม่มีการเอาไปควบรวมกับธนาคารใดๆ ทั้งสิ้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย
รมช.คลัง ยืนยันฐานะ “เอสเอ็มอี-ไอแบงก์” ยังไม่ต้องหามเข้าไอซียู ลั่นจะไม่มีการควบรวมกิจการกับธนาคารใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมย้ำเป้าหมายการดูแล “ปชช.-รายย่อย” โดยไม่แข่งขันกับแบงก์พาณิชย์ พร้อมเดินหน้าบี้ 2 แบงก์รัฐเร่งส่งแผนฟื้นฟู ฝากวอนผู้ฝากอย่าแห่ถอนเงินหนี

นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากคณะกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เสนอแผนฟื้นฟูเข้ามา ได้สั่งให้กลับไปทำแผนให้ชัดเจนอีกครั้ง คาดว่าจะได้ข้อสรุป และชี้แจงต่อสาธารณะปลายสัปดาห์นี้ เพื่อเดินหน้าบริหารจัดการองค์กร การปรับปรุงกฎระเบียบให้มีความชัดเจน และเพื่อให้คณะกรรมการบริหารแผนฟื้นฟูซึ่งมีบุคคลจากกระทรวงการคลัง และที่ปรึกษาร่วมเดินหน้าแก้ปัญหา จากนั้นภายในไตรมาส 1 ของปีนี้จะพิจารณาเพิ่มทุนให้แก่เอสเอ็มอีแบงก์ จำนวน 555 ล้านบาท เพื่อให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ รวมถึงแผนปรับโครงสร้างระยะเวลา 3 ปี เพื่อปรับปรุงบริหารความเสี่ยง การพัฒนาเทคโนโลยี การปรับโครงสร้างองค์กร เพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้ ปัจจุบัน เอ็นพีแอลธนาคาร 29,000 ล้านบาท เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสียง (บีไอเอส) ร้อยละ 4.6 เมื่อเพิ่มทุนแล้วจะทำให้มีเงินกองทุน 4,000 ล้านบาท

สำหรับการปล่อยสินเชื่อตามนโยบายของรัฐบาลนั้นมีวงเงินประมาณ 7,000 ล้านบาท ที่ต้องแก้ไข แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ การปรับปรุงกฎเกณฑ์บางส่วน และการผ่อนปรนเรื่องการกันสำรอง เพราะหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในส่วนที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบมี 2,000 ล้านบาท โดยวันที่ 18 มีนาคมนี้ เตรียมจัดงานเอสเอ็มอี โรดแมป เพื่อบูรณาการร่วมสถาบันการเงินรัฐ และยืนยันจะไม่มีการควบรวมกิจการกับธนาคารใดเพื่อเป้าหมายการดูแลประชาชน และรายย่อยโดยไม่แข่งขันกับธนาคารพาณิชย์

ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ขณะนี้ต้องให้เวลาคณะทำงานแผนฟื้นฟูของเอสเอ็มอีแบงก์ และไอแบงก์ ทำการฟื้นฟูกิจการของธนาคารในช่วง 3-6 เดือน ขณะที่กระทรวงการคลังได้ติดตามความคืบหน้าทุกสัปดาห์ เมื่อครบกำหนดแล้วจะนำแผนมาพิจารณาว่าจะเพิ่มทุนให้ในสัดส่วนเท่าใดแก่ทั้ง 2 แห่ง แต่ฐานะทางการเงินทั้ง 2 แห่งดีขึ้น โดยขอความร่วมมือกับรัฐวิสาหกิจ ซึ่งได้ฝากเงินไว้อย่าถอนออกไปใช้จ่ายจำนวนมากจนกระทบต่อฐานะ สำหรับการปล่อยสินเชื่อได้เข้มงวดแล้ว โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อของรายใหญ่ แต่รายย่อยจะพิจารณาให้สินเชื่อตามปกติ
กำลังโหลดความคิดเห็น