xs
xsm
sm
md
lg

TSFC ระงับสินเชื่อเครดิตบานลานซ์ส่วนเพิ่ม เหตุใกล้เต็มเพดาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 บล.เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ แจ้งระงับให้สินเชื่อเครดิตบาลานซ์ส่วนเพิ่ม เป็นการชั่วคราวเพื่อป้องกันความเสี่ยง เหตุยอดการปล่อยมาริ์จิ้นโลนใกล้ถึงระกับที่ ก.ล.ต. กำหนดไม่ให้ปล่อยเกิน 5 เท่าของเงินกองทุน จากปริมาณการซื้อขายหุ้นปัจจุบันปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 5-6 หมื่นล้านบาทต่อวัน  แต่ยันบริการอื่นๆ ยังคงทำปกติ  ผู้บริหารแจง ปัจจุบันปล่อยหุ้นใน SET100 เพียง 30 ตัวเท่านั้น ด้าน ก.ล.ต. ชี้เป็นเรื่องที่ดี

                น.ส.เยาวลักษณ์ อร่ามทวีทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ จำกัด (TSFC) เปิดเผยว่า   ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์  ที่ผ่านมา บริษัทได้หยุดให้สินเชื่อเครดิตบาลานซ์เพิ่มเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (มาร์จิ้นโลน) เป็นการชั่วคราว  เนื่องจากขณะนี้บริษัทมียอดปล่อยสินเชื่อขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3,500 ล้านบาท แตะระดับเพดานการเตือน (วอร์นนิ่ง ลิมิต)   และใกล้ระดับกับข้อบังคับของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดให้ TSFC ปล่อยมาร์จิ้นได้ไม่เกิน 5 เท่าของเงินกองทุน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่จำนวน 1,000 ล้านบาท

                ดังนั้น บริษัทจึงจำเป็นต้องระงับการให้สินเชื่อเครดิตบาลานซ์เพิ่มเป็นการชั่วคราว เช่น กรณีลูกค้ามีวงเงินสินเชื่อตามสัญญากู้ยืม 30 ล้านบาท มียอดหนี้คงค้าง 10 ล้านบาท  ณ เย็นวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556 เช้าวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 ลูกค้าจะถูกระงับวงเงินสินเชื่อส่วนที่เหลือ 20 ล้านบาทลง เหลือเป็นวงเงินสินเชื่อใหม่เท่ากับ 10 ล้านบาท  ซึ่งเท่ากับยอดหนี้คงค้าง 10 ล้านบาท ณ สิ้นเย็นวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556  โดยระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556 กรณีลูกค้าไม่ขายหุ้น ลูกค้าจะไม่สามารถซื้อหุ้นเพิ่มได้  กรณีลูกค้าขายหุ้นไป ลูกค้าจะสามารถซื้อหุ้นเพิ่มได้ แต่ยอดหนี้จะต้องไม่เกินวงเงินสินเชื่อใหม่ที่ 10 ล้านบาท

                สำหรับบริการต่างๆ เช่น การฝาก ถอนเงิน การฝากถอนหลักทรัพย์ลูกค้าสามารถดำเนินการได้ตามขั้นตอนปกติ และลูกค้ายังมีหน้าที่ต้องดำรงอัตราส่วนหลักประกันต่อยอดหนี้ให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่ TSFC ประกาศไว้ และในกรณีที่หลักประกันของลูกค้ามีมูลค่าลดลงจนถึงระดับที่ TSFC ต้องเรียกหลักประกันเพิ่มหรือระดับที่ TSFC ต้องบังคับขายหลักประกัน TSFC จะยังคงดำเนินการตามขั้นตอนที่กำหนดเช่นเดียวกัน

                น.ส.เยาวลักษณ์ กล่าวว่า  ปัจจุบันบริษัทได้ระงับการปล่อยมาร์จิ้นโลนสำหรับหุ้นนอก SET100  :ซึ่งจะปล่อยหุ้นที่อยู่ใน SET100 เพียง 30 ตัวเท่านั้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยงเพื่อทำให้การปล่อยมาร์จิ้นไม่กระจุกตัว จากปัจจุบันที่มีการกระจุกตัวแล้ว  ซึ่งจากการที่ตนได้หารือกับทาง บล.ต่างๆ นั้นพบว่า มีการปล่อยมาร์จิ้นที่สูงแล้วทุกคนต้องระวัง  ทำให้นักลงทุนหันมาขอสินเชื่อกับทาง TSFC มากขึ้น แม้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า บล.ทั่วไป ทำให้ยอดขายปล่อยสินเชื่อของ TSFC เกือบถึงเพดานแล้ว โดย ณ สิ้นเดือนมกราคม ยอดการปล่อยมาร์จิ้นโลนของทั้งอุตสาหกรรมได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.9 หมื่นล้านบาท  จากสิ้นเดือนธันวาคม 2555 อยู่ที่ 4 หมื่นล้านบาท

                “ขณะนี้เชื่อว่าทุกโบรกเกอร์คงระวังเหมือนกันหมดในอันที่จะระงับการปล่อยมาร์จิ้นโลนส่วนเพิ่ม เพราะแม้แต่ TSFC ซึ่งโดยปกติจะคิดอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าโบรกเกอร์ เรายังมียอดสินเชื่อจนเกือบเต็มเพดาน  ถือเป็นการดูแลความเสี่ยง เพราะพบว่า มีการกระจุกตัวของการปล่อยสินเชื่อ และหุ้นมีความผันผวนสูง แต่ขอย้ำว่า แค่ระงับการปล่อยสินเชื่อส่วนเพิ่ม แต่ธุรกรรมอื่นๆ ยังดำเนินการตามปกติ ส่วนจะลากยาวถึงเมื่อไหร่ขึ้นอยู่กับภาวะตลาดหุ้น” น.ส.เยาวลักษณ์กล่าว

            สำหรับการปล่อยมาร์จิ้นโลนในช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ของบริษัททะลุเป้าหมายยอดสินเชื่อคงค้างของปี 2556 ไปแล้ว  ซึ่งปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างการทบทวนเพิ่มเป้าหมาย ส่วนแผนนำ TSFC เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นนั้น เป็นส่วนหนึ่งของแผนเดิมก่อนที่ตนจะเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งคงแผนดังกล่าวไว้ แต่จะเข้าได้เมื่อไหร่นั้นขึ้นอยู่กับความพร้อม

                นางดวงมน จึงเสถียรทรัพย์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายกำกับธุรกิจนายหน้าและค้าหลักทรัพย์ กล่าวว่า การระงับการปล่อยมาร์จิ้นโลนของทางฝั่งผู้ให้บริการนั้น ถือเป็นเรื่องดีที่มีการคำนึงถึงการบริหารความเสี่ยง สร้างความสบายใจให้แก่สำนักงาน ก.ล.ต.ในฐานะผู้กำกับ ดีกว่าจะปล่อยสินเชื่อโดยไม่ได้กำหนดเพดานจนเกิดความเสียหายต่อระบบ
กำลังโหลดความคิดเห็น