xs
xsm
sm
md
lg

พีดีเฮ้าส์ฯ ขอผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ ล้างส่วยใต้โต๊ะขอใบก่อสร้าง ห่วงอาคารสร้างผิดแบบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พิศาล ธรรมวิเศษ
พีดีเฮ้าส์ เผยตลาดรับสร้างบ้านบ้าน 2 เดือนแรกดีเกินคาด เชื่อไตรมาสแรกยอดขายบ้านโตกว่าร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับไตรมากแรกปีก่อน ชี้ 4 ปัจจัยหลักๆ ส่งผลยอดขายเติบโต พร้อมตั้งเป้าปี 2556 มีส่วนแบ่งตลาด 1,500 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมรับสร้างบ้านหมื่นล้าน เล็งปีนี้เปิดสาขาเพิ่มอีก 4-5 แห่ง เช่น กาญจนบุรี ชุมพร ร้อยเอ็ด ฯลฯ พร้อมแนะผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ แก้ปัญหารับเงินใต้โต๊ะขอใบอนุญาตก่อสร้าง เข้มตรวจสอบแบบก่อสร้าง หลังมีกรณีสร้างผิดแบบแปลน เสี่ยงอาคารมีปัญหาตามมา

นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า ในช่วง 2 เดือนของไตรมาสแรกปี 2556 นี้ พบว่า ยอดขายบ้านจาก 33 สาขาทั่วประเทศเติบโตได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก หรือเติบโตกว่าร้อยละ 30 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ เป็นผลมาจาก 4 ปัจจัยหลักๆ คือ ประการแรก เกิดจากการขยายฐานตลาดรับสร้างบ้าน หรือขยายสาขาของบริษัทฯ ออกไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดมากขึ้น โดยปัจจุบัน สามารถให้บริการได้กว่า 60 จังหวัด ประการถัดมา ความเชื่อมั่น และกำลังซื้อของผู้บริโภคเติบโตดีขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล หลังจากเคยเป็นพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมก่อนหน้านี้

ประการที่สาม ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญ และสนใจสร้างบ้านประหยัดพลังงานมากขึ้น ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวถือเป็นจุดแข็งของพีดีเฮ้าส์ในฐานะบริษัทรับสร้างบ้านที่ได้รับรางวัลบ้านอนุรักษ์พลังงาน ประเภทดี และดีมาก จำนวน 21 รางวัล จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน และสุดท้าย ตลาดรับสร้างบ้านปีนี้แข่งขันกันไม่รุนแรงนัก เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังกังวลกับปัญหาแรงงานขาดแคลน โดยเฉพาะรายที่ยังใช้ระบบก่อสร้างแบบเดิม (หล่อในที่) เพราะต้องพึ่งพาแรงงานจำนวนมาก

“ปี 2556 นี้ ประเมินว่าตลาดรวมรับสร้างบ้านจะมีมูลค่า 9,500-10,000 ล้านบาท โดยมีบริษัทรับสร้างบ้านที่มีรูปแบบชัดเจน และแข่งขันอยู่ในตลาด จำนวน 114 ราย ทั้งนี้ในส่วนของ พีดีเฮ้าส์ เองตั้งเป้าแชร์ส่วนแบ่งตลาด หรือมียอดขายบ้านรวมทุกสาขาทั่วประเทศ 1,400-1,500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเป็นยอดขายจากสาขาในต่างจังหวัดร้อยละ 75 หรือประมาณ 1,100 ล้านบาทเศษ และยอดขายจากสาขาในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ประมาณร้อยละ 25 หรือประมาณเกือบ 400 ล้านบาท ในปัจจุบัน ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ มีสาขาเปิดให้บริการ จำนวน 33 สาขา โดยปีนี้บริษัทฯ ยังมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มอีก 4-5 สาขา เช่น กาญจนบุรี ชุมพร ร้อยเอ็ด ฯลฯ เป็นต้น”

สำหรับการรับมือกับปัญหาขาดแคลนแรงนั้น บริษัทฯ ได้นำระบบก่อสร้างสำเร็จรูป (Prefab) มาใช้ในการก่อสร้างบ้านทุกหลัง โดยจับมือกับพาร์ตเนอร์ หรือพันธมิตรที่เชี่ยวชาญเป็นผู้ผลิต ดังนั้น จึงสามารถสร้างบ้านต่อปีได้มากกว่า และก่อให้เกิด Economy of Scale ผลดังกล่าวทำให้บริษัทฯ มีความได้เปรียบในการบริหารต้นทุนก่อสร้าง ต้นทุนค่าดำเนินงาน รวมทั้งค่าการตลาดโดยเฉลี่ยต่ำกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งขันที่ใช้การก่อสร้างระบบเดิม (หล่อในที่) ซึ่งใช้ระยะเวลาก่อสร้างต่อหลังนานกว่า และต้องใช้แรงงานจำนวนมาก

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนจะพัฒนาระบบก่อสร้างบ้านที่ลดการใช้แรงงานคนลง โดยจับมือกับพาร์ตเนอร์ที่เชี่ยวชาญระบบก่อสร้างสำเร็จรูป รวมทั้งเพื่อจะรุกขยายตลาดรับสร้างบ้านทั้งในประเทศ และอาเซียนต่อไปในอนาคต

นายพิศาล กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานครที่จะมีขึ้นเร็วๆ นี้ นอกจากปัญหาของชาวกรุงเทพฯ ตามที่ประชาชนทั่วไปเรียกร้องให้เข้ามาแก้ไข อย่างเช่น การจราจร ยาเสพติด รถเมล์สาธารณะ ฯลฯ เป็นต้นแล้ว โดยส่วนตัวอยากให้ผู้ว่าฯ เข้ามาแก้ปัญหาการออกใบอนุญาตก่อสร้างให้เร็วขึ้น เพราะความล่าช้าดังกล่าวมีผลเสียต่อธุรกิจ และเศรษฐกิจ รวมถึงการเรียกรับเงินใต้โต๊ะจากการออกใบอนุญาตก่อสร้าง และการออกเลขที่บ้านให้ประชาชน ที่สำคัญคือ การสมยอมให้ผู้ประกอบการ หรือผู้ขออนุญาตก่อสร้างอาคารผิดไปจากแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตก่อสร้าง ซึ่งส่งผลต่อสภาพแวดล้อมการอยู่อาศัย และก่อให้เกิดปัญหาสังคมตามมา จึงขอฝากถึงว่าที่ผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น