xs
xsm
sm
md
lg

อานิสงส์คอนโดฯ มือสองหนุนตลาดรวมโตสวนน้ำท่วม ERA ดึง SCB หนุนขายบ้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ในงานแถลงข่าว
“อีอาร์เอฯ” แฟรนไชส์ขายบ้านมือสองยันปี 55 ยอดขายที่อยู่อาศัยโตสวนบ้านใหม่แม้จะเจอน้ำท่วมใหญ่ แจงบริษัทฯ ยอดขายโตกว่า20% จากปกติ 12-13% อานิสงส์คอนโดฯ มือสองดันยอดพุ่ง มั่นใจปี 56 ยังโตต่อเนื่อง หลังแบงก์หนุนสินเชื่อปล่อยกู้ 100% ผ่อนยาว 30 ปี ตั้งเป้าปีนี้เพิ่มส่วนแบ่งตลาดเป็น 25% จากมูลค่าความต้องการซื้อรวม 4,000 หน่วย ด้าน SCB ตั้งทีมสินเชื่อซับพอร์ต ตั้งเป้าผลักดันเอ็นพีเอ 10,000 ล้านบาท มีส่วนแบ่งเพิ่มเป็น 10% ของเป้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยรวมแสนล้านบาทในปีนี้

นายวรเดช ศิวเตชานนท์ ประธานบริหาร บริษัท อีอาร์เอ แฟรนไชส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงตลาดที่อยู่อาศัยมือสองในปีที่ผ่านมาว่าสวนทางกับบ้านใหม่อย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมมือสองมีอัตราการขยายตัวของความต้องการซื้อสูงถึง 20% จากปกติ 5-6% ต่อปี ขณะที่ที่อยู่อาศัยมือสองในกลุ่มแนวราบมีทิศทางที่ดี แม้จะเกิดอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่แต่กลุ่มที่อยู่อาศัยมือสองแทบไม่ได้รับผลกระทบ ทำให้ในปีที่ผ่านมายอดขายที่อยู่อาศัยมือสองของอีอาร์เอเติบโตถึง 20% จากปกติอยู่ที่ 12-13% ต่อปี โดยมียอดขายรวม 2,035 หน่วย สำหรับในปี 56 ได้ตั้งเป้ายอดขาย 2,000 หน่วย และจะรักษาระดับยอดขายดังกล่าวต่อเนื่องไปจนถึงการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

“ เชื่อว่าในปีนี้จะมีหลายปัจจัยเข้ามาส่งเสริมให้ตลาดบ้านมือสองเติบโตต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ทั้งเรื่องของราคาขายที่ปรับตัวอย่างช้าๆ มีหลากทำเล สถาบันการเงินเข้ามาสนับสนุนสินเชื่อแก่ลูกค้ามากขึ้น ขยายเพดานปล่อยกู้ถึง 80-90% จากก่อนหน้าระดับ 70% ขณะที่ในปี 56 บ้านใหม่น่าจะมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ราคาขายขยับขึ้นไปอีก โครงการที่เปิดใหม่จะห่างเมืองมากขึ้นทุกปี”

ทั้งนี้ ในปี 55 อีอาร์เอฯ ได้รวบรวมข้อมูลตัวเลขความต้องการซื้อ-ขายบ้านมือสองจากสมาชิกแฟรนไชส์ที่มีอยู่ 20 สาขาทั่วประเทศ พบว่ามียอดความต้องการขายที่อยู่อาศัยมือสองรวม 13,000 หน่วย แบ่งเป็นใน กทม.49% ปริมณฑล 31% และต่างจังหวัด 20% ขณะที่ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในปีที่แล้วอยู่ที่ 4,000 หน่วย

อย่างไรก็ตาม ในความต้องการซื้อดังกล่าว อีอาร์เอฯ มีส่วนแบ่งตลาด 15% เท่านั้น เนื่องจากความต้องการซื้อของผู้บริโภคไม่ตรงกับสินค้าที่เสนอขายอยู่ในตลาด และกลุ่มลูกค้าบางส่วนติดปัญหากู้ไม่ผ่าน นอกจากนี้ สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อซื้อที่ดินเปล่าค่อนข้างต่ำ ส่งผลให้ความต้องการขายที่ดินไม่ได้รับการตอบรับจากลูกค้ามากนัก แม้จะมีสินค้าเสนอขายและความต้องการซื้ออยู่มากก็ตาม ดังนั้น ทางอีอาร์เอฯ ได้ร่วมกับธนาคารไทย์พาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ทำตลาดร่วมกัน โดยลูกค้าที่ซื้อที่อยู่อาศัยกับอีอาร์เอฯ จะได้รับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยพิเศษสูงสุด 90% บวกสินเชื่อตกแต่งบ้านอีก 10% ระยะการผ่อนชำระนาน 30 ปี

นอกจากนี้ ในส่วนของการขอสินเชื่อซื้อที่ดินเปล่า SCB และสถาบันการเงินต่างๆ ก็เริ่มเปิดกว้างมากขึ้น โดยเพิ่มวงเงินสินเชื่อขึ้นเป็น 70% จากเดิมที่ปล่อยกู้เพียง 50% ของราคาประเมินเท่านั้น

“จากการสนับสนุนด้านสินเชื่อของสถาบันการเงินที่เอื้อประโยชน์แก่บ้านมือสองมากขึ้น และแผนการเปิดสำนักงานภาคเพื่อเป็นศูนย์ความช่วยเหลือสมาชิกแฟรนไชส์ในต่างจังหวัดจำนวน 2 แห่ง และการรับสมัครสมาชิกแฟรนไชส์เพิ่มอีก 20 ราย รวมเป็น 40 ราย จะเป็นตัวเร่งให้อีอาร์เอมีส่วนแบ่งตลาดยอดขายจากความต้องการซื้อเพิ่มเป็น 25% จากเดิม 15%”

นางพิกุล ศรีมหันต์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสินเชื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารไทยพาณิชย์ฯ กล่าวว่า ในปีนี้ทางธนาคารฯ ให้น้ำหนักเพิ่มสินเชื่อในกลุ่มที่อยู่อาศัยมือสองมากขึ้น โดยได้ตั้งทีมสินเชื่อขึ้นมาเพื่อเข้าไปสนับสนุนตัวแทนนายหน้าบ้านมือสองมากขึ้น และยังทำหน้าที่บริหารและระบายทรัพย์สินรอการขาย (เอ็นพีเอ) ของธนาคาร ที่มีอยู่ปีละ 2,000-3,000 ล้านบาทออกไปด้วย
โดยในปีที่ผ่านมาธนาคารมียอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยรวม 120,000 ล้านบาท จากเป้า 80,000 ล้านบาท โดยในยอดสินเชื่อดังกล่าวเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยมือสอง 5,000 ล้านบาท ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะมียอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ 1 แสนล้านบาท โดยได้ตั้งเป้าสินเชื่อบ้านมือสอง 10,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 10% ของเป้าสินเชื่อที่อยู่อาศัย.
กำลังโหลดความคิดเห็น