เจริญโภคภัณฑ์อาหาร โกยยอดขาย 357,175 ล้านบาท เติบโตก้าวกระโดด 73% จากปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 18,790 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 2.59 บาท พร้อมประกาศจ่ายปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังอีก 0.50 บาทต่อหุ้น
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด หรือ CPF แจ้งผลงานงวดสิ้นปี 55 ว่า มีกำไรสุทธิ 18,787.93 ล้านบาท
โดยผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา นอกเหนือจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ในภาพรวมที่ยังมีความผันผวนในหลายประเทศแล้วนั้น ยังมีปัจจัยภายนอกที่เป็นความท้าทายต่อธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และอาหารในปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก เช่น ภาวะสินค้าเนื้อสัตว์ล้นตลาดที่ทำให้ราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวลดลงอย่างมากตั้งแต่ต้นปี 2555 และภาวะต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นจากวิกฤตภัยแล้งในสหรัฐอเมริกา ในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ซึ่งทำให้ผู้ผลิตเนื้อสัตว์ขาดทุนจากการดำเนินธุรกิจ นอกจากนั้น ได้มีโรคกุ้งประเภทใหม่เกิดขึ้นในประเทศไทยในช่วงปลายปีที่ผ่านมาที่ปัจจุบันทางภาครัฐ และบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนามาตรการในการป้องกัน ทำให้ในไตรมาสที่ 4 บริษัทมีกำไร 238 ล้านบาท ลดลงค่อนข้างมากจากปีก่อน แต่เชื่อว่าสถานการณ์ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
อย่างไรก็ดี ผลจากการที่บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นของ CPP หรือ C.P.Pokphand Co.Ltd. บริษัทหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ในช่วงต้นปี 2555 ซึ่งเป็นบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจอาหารสัตว์ในประเทศจีน และธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนาม ได้ทำให้บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ก้าวกระโดด และยังคงมีผลกำไรต่อเนื่อง
บริษัทได้ตั้งเป้าหมายยอดขายในอีก 5 ปีข้างหน้าไว้ที่ 700,000 ล้านบาท เติบโต 1 เท่าตัวจากปีที่ผ่านมา หรือคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยประมาณ 10-15% ต่อปี ด้วยการเติบโตของกิจการในประเทศกำลังพัฒนา (Emerging Market) และธุรกิจอาหารเป็นหลัก
ดังนั้น คณะกรรมการบริษัทได้ประกาศจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีหลัง 0.50 บาทต่อหุ้น (เมื่อรวมกับการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 0.60 บาทต่อหุ้น ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา CPF จะมีการจ่ายเงินปันผลรวมทั้งปี 1.10 บาทต่อหุ้นจากผลการดำเนินงานปี 2555) ซึ่งได้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 9 พฤษภาคม 2556 (XD วันที่ 3 พฤษภาคม 2556)