เจริญโภคภัณฑ์อาหารแจงไม่เพิ่มทุน เหตุสภาพคล่องดีฐานะการเงินแกร่ง เผยอยู่ระหว่างเสนอออกและขายหุ้นกู้เพื่อรีไฟแนนซ์หนี้เก่า ยันภัยแล้งสหรัฐฯ ยังไม่ส่งผลกระทบต่อต้นทุนอาหารสัตว์ อีกทั้งบางชนิดซื้อล่วงหน้าไว้แล้ว จึงกระทบไม่มาก เชื่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบระยะสั้น
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ชี้้แจงภัยแล้งที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ที่ส่งผลให้ราคาข้าวโพด และกากถั่วเหลืองในตลาดโลกสูงขึ้นกว่า 50% ทำให้ราคาอาหารสัตว์สูงตามไปด้วย
สำหรับผลกระทบในประเทศไทยในด้านข้าวโพดมีผลกระทบน้อย เนื่องจากผลผลิตข้าวโพดไทยเราผลิตได้เพียงพอต่อการใช้ และข้าวโพดฤดูใหม่ก็จะออกในเดือนหน้าแล้ว ส่วนกากถั่วเหลือง เนื่องจากต้องนำเข้าก็ส่งผลกระทบทันที โดยราคาจากโรงสกัดน้ำมันได้ปรับตัวสูงขึ้นมาถึงกิโลกรัมละ 20.80 บาท สำหรับ CPF ได้มีการซื้อล่วงหน้าไปก่อนแล้ว จึงมีผลกระทบไม่มาก
นายอดิเรกกล่าวถึงกระแสข่าวที่มีออกมาว่า บริษัทจะมีการเพิ่มทุนนั้น ชี้แจงว่า บริษัทไม่มีแผนในเรื่องนี้แต่อย่างใด เนื่องจากกระแสเงินสดของบริษัทยังคงมีเพียงพอในการลงทุน หรือเข้าซื้อกิจการ และบริษัทอยู่ระหว่างการออก และเสนอขายหุ้นกู้เพื่อเป็นการระดมทุนมาใช้เพื่อรีไฟแนนซ์เงินกู้เดิม ซึ่ง CPF ได้มีการดำเนินการระดมทุนผ่านช่องทางหุ้นกู้เป็นแนวทางหลักทุกปีอยู่แล้ว
นอกจากนั้น ในส่วนของกระแสข่าวลือเกี่ยวกับการขายหุ้นโดยผู้ถือหุ้นใหญ่ หรือผู้บริหารนั้น นายอดิเรกกล่าวว่า ยังไม่ได้เห็นอะไรที่ผิดปกติ หากมีการขายออกมาจะต้องมีการรายงานตามกฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งในส่วนนี้สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยภาพรวมของธุรกิจของปีนี้นั้น ต้องถือว่าเป็นปีที่ยากกว่าที่ได้เคยคาดการณ์ไว้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลกระทบมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกและในประเทศไทย ที่ส่งผลให้กำลังซื้อหดตัวลง ไม่เพิ่มขึ้นอย่างที่เคยคาดไว้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ต่างๆ เหล่านี้น่าจะมีผลกระทบต่อธุรกิจในระยะสั้นเท่านั้น และธุรกิจอาหารเป็นธุรกิจที่มีความจำเป็นสำหรับผู้บริโภคทั่วโลก บริษัทยังเชื่อมั่นว่า ธุรกิจจะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 ปี ด้วยยอดขายกว่า 6 แสนล้านบาทแน่นอน
