xs
xsm
sm
md
lg

กองทริกเกอร์สร้างยิลด์เด่น CIMB ไอพีโอเพิ่มหลังดีมานด์ล้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บลจ.ซีไอเอ็มบีเผยทริกเกอร์ฟันด์สร้างผลตอบแทนเยี่ยม ลุยไอพีโอต่อ “ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8 เปอร์เซ็นต์ 3” เริ่มขาย 8-18 กุมภาพันธ์นี้

นายเจษฎา สุขทิศ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล กล่าวว่า จากการที่หลายๆ ประเทศอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่อยู่ในระดับต่ำส่งผลให้เม็ดเงินไหลเข้าประเทศกำลังพัฒนาซึ่งมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับประมาณ 4.5-5.5% อีกทั้งผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนของตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจากการบริโภคภายในที่เพิ่มขึ้น และการใช้จ่ายจากภาครัฐบาลรวมถึงภาคเอกชน ในขณะที่อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลง

สำหรับแนวทางการลงทุนในหุ้นของ บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล กุญแจสำคัญอยู่ที่การคัดเลือกหลักทรัพย์รายตัวผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลและการพบปะผู้บริหารของแต่ละบริษัท โดยผู้จัดการกองทุนจะเน้นหุ้นที่มีการเจริญเติบโตดี และมีทีมผู้บริหารที่แข็งแรง ตลอดจนมีกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่ดีและสามารถบรรลุเป้าหมายได้สม่ำเสมอ สำหรับกองทุนเปิด ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8 เปอร์เซ็นต์ 3 หรือ CIMB-PRINCIPAL TG8P3 เน้นลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคภายในประเทศ และหุ้นที่เกี่ยวข้องกับภาคการลงทุนตลอดจนหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยจะเริ่มเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 8-18 กุมภาพันธ์นี้

ด้านนายเจิดพันธุ์ นิธยายน ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดและการขาย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด กล่าวว่า บริษัทจัดการประสบความสำเร็จจากการบริหารกองทุนเปิด ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8 เปอร์เซ็นต์ 3 ซึ่งเป็นกองทาร์เกตฟันด์กองแรกที่ได้รับผลตอบแทนตามเป้าประมาณ 8% ด้วยระยะเวลาการลงทุนเพียง 77 วันหลังวันจดทะเบียนกองทุน และกองทุน CIMB-PRINCIPAL TG8P2 ที่บริหารได้เข้าเป้า 8% เป็นกองทุนที่ 2 ภายในเวลาเพียง 3 เดือน ซึ่งเราคาดว่าในช่วงเวลานี้เหมาะแก่การเสนอขายกองหุ้นทริกเกอร์ฟันด์อีกครั้ง จึงได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิด ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8 เปอร์เซ็นต์ 3 มูลค่าโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งมีนโยบายในตราสารทุนในประเทศที่มีปัจจัยพื้นฐานดี โดยผู้จัดการกองทุนสามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมต่อสภาวการณ์ในแต่ละขณะเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน และคำนึงถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นเป็นสำคัญ

สำหรับจุดขายของกองทุนนี้ นอกจากการลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี มีอัตราเติบโตสูงแล้ว บริษัทจัดการจะรับซื้อคืนอัตโนมัติเมื่อ NAV มีมูลค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 10.85 บาทต่อหน่วย เป็นเวลา 5 วันทำการติดต่อกัน และวันทำการถัดไปทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเงินฝากทั้งหมด และสามารถรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติได้ไม่ต่ำกว่า 10.80 บาทต่อหน่วย ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาทเท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น