กูรูแนะทยอยเข้าซื้อทองคำเมื่อราคาปรับลง

 “วายแอลจี” หาจังหวะเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมา และไม่หลุดแนวรับ 1,565 หรือ 1,554 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวบริเวณแนวต้าน 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ “โกลเบล็ก” คาดกรอบการลงทุนที่ 1,550-1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนทยอยสะสมหากราคาทองคำมีการปรับตัวลง

    วายแอลจี บูลเลี่ยน ประเมินราคาแนวโน้มวันที่ 26 ก.พ. ว่า ราคาทองคำดีดตัวขึ้นมาบ้าง หลังจากอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายวันทำการที่ผ่านมา ทั้งนี้ นักลงทุนได้เข้ามาช้อนซื้อทองคำเพื่อเก็งกำระยะสั้น ประกอบกับสหรัฐฯ เปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์เพิ่มขึ้น 20,000 ราย ทำให้จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่องโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 8,000 ราย ซึ่งบ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ยังคงฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า ประกอบกับตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทรงตัวในเดือนมกราคม ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งการชะลอตัวลงของดัชนี CPI ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อหลัก และจำนวนผู้ว่างงานที่เพิ่มขึ้น สร้างความหวังว่าอาจทำให้เฟดมีโอกาสที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนแรงลงบ้าง หลังจากแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เมื่อรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า ความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกันเกี่ยวกับระยะเวลา และปริมาณการซื้อพันธบัตรอาจทำให้เฟดยุติโครงการซื้อพันธบัตร

    อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำยังถูกกดดันจากการที่โฆษกทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ ได้ติดต่อกับสมาชิกสภานิติบัญญัติที่สำคัญของพรรครีพับลิกัน เพื่อหารือเกี่ยวกับการปรับลดรายจ่ายของรัฐบาลที่กำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มีนาคม โดยแจ้งว่า การหารือที่น่าพอใจ ซึ่งนักลงทุนในตลาดทองคำยังคงจับตาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพราะหากปัญหาดังกล่าวสามารถยุติลงได้ สกุลเงินดอลลาร์จะแข็งค่าซึ่งส่งผลลบต่อทิศทางราคาทองคำ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างมีความกังวลกับประเด็นดังกล่าว ทำให้เมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา ซึ่งทำให้วายแอลจีประเมินว่า ราคาทองคำจะสามารถอ่อนตัวลงได้อีก นอกจากนี้ วายแอลจียังคงแนะนำนักลงทุนว่าการรอจังหวะซื้อเมื่อว่าราคาทองคำจะไหลลงสู่แนวรับสำคัญน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ นักลงทุนควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน

    กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า สำหรับนักลงทุนที่รอจังหวะเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมา และไม่หลุดแนวรับ 1,565 หรือ 1,554 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวบริเวณแนวต้าน 1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับ 1,554 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอซื้อในบริเวณ 1,530 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากหลุดบริเวณนี้จำเป็นต้องตัดขาดทุน สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้ปิดสถานะทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้น หรือบริเวณแนวต้าน 1,600 หรือ 1,609 ดอลลาร์ต่อออนซ์

    ด้าน โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ประเมินราคาทองคำวานนี้ (25 ก.พ.) ว่า ราคาทองคำในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 6.2 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มาอยู่ที่ 1,583.4  ดอลลาร์ต่อออนซ์ (จุดต่ำสุด-สูงสุดในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในประเทศอยู่ที่ 1,575-1,587.50ดอลลาร์ต่อออนซ์)  ราคาทองคำปรับตัวขึ้นตามแรงซื้อกลับทางเทคนิค และค่าเงินดอลลาร์เริ่มอ่อนค่าลงภายหลังตัวเลขทางเศรษฐกิจออกมาแย่กว่าที่ที่ตลาดคาดไว้ และตัวเลขผลผลิตมวลรวมของเยอรมนีออกมาที่ระดับ -0.6% ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ ปี 2555

    สำหรับแนวโน้มราคาทองคำประจำวันที่ 26 ก.พ. คาดกรอบการลงทุนที่ 1,550-1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำนักลงทุนทยอยสะสมหากราคาทองคำมีการปรับตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณแนรับที่ 1,555 ดอลลาร์ต่อออนซ์   และขายทำกำไรเมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,580-1,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนะนำให้ตัดขาดทุนหาราคาทองคำลดลงไปต่ำกว่า 1,550 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยราคาทองคำยังคงมีโอกาสปรับตัวลดลงอีกจากปัจจัยทางเทคนิคที่ยังคงกดดันอยู่