เอเอฟพี - ราคาน้ำมันวานนี้ (20) ดิ่งหลังมีข่าวลือหนาหูว่ากองทุนรวมแห่งหนึ่งเตรียมเทขายครั้งใหญ่ ขณะที่วอลล์สตรีทและน้ำมันก็ขยับลงแรง ท่ามกลางความแตกแยกภายในธนาคารกลางอเมริกาต่อโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม ลดลง 2.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.92 ดอลลาร์ ปิดที่ 115.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เหล่านักวิเคราะห์ต่างพยายามค้นหาเหตุผลมาอธิบายการดิ่งลงอย่างกะทันหันของราคาน้ำมัน โดย ไคล์ คูเปอร์ จากบริษัทที่ปรึกษาไอเอเอฟ สันนิษฐานว่าบางครั้งการดิ่งลงของน้ำมันก็เกิดขึ้นตอนที่สัญญากำลังหมดอายุลง และในกรณีนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับการหมดอายุของสัญญาตลาดนิวยอร์ก “ณ สัญญาหมดอายุ จึงมีข่าวลือว่ากองทุนรวมต้องการขายออกมา”
ขณะที่ สตีฟ ชอร์ค นักวิเคราะห์อีกคนยืนยันว่าการซื้อขายวานนี้ (20) ไม่มีปัจจัยพื้นฐานทางอุปสงค์หรืออุปทานใดๆ อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันเลย
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (20) ดิ่งลงแรง หลังรายงานการประชุมเฟดครั้งล่าสุด แสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในคณะกรรมการเกี่ยวกับโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์ของทางธนาคารกลาง
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 109.97 จุด (0.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 13,925.70 จุด แนสแดค ลดลง 49.19 จุด (1.53 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,164.41 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 19.12 จุด (1.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,511.82 จุด
รายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 29-30 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพุธ (20) แสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในคณะกรรมการ เกี่ยวกับโปรแกรมเข้าซื้อพันธบัตรไปจนกว่าจะพบเห็นการฟื้นตัวอย่างยั่งยืนในตลาดแรงงาน
ทั้งนี้ แม้ว่าตลาดทองคำจะปิดลงไปก่อนหน้าที่เฟดจะเผยแพร่รายงานการประชุม(Minutes) แต่ข่าวลือเกี่ยวกับความแแตกแยกนี้ ก็ฉุดให้ทองคำวานนี้ (20) ดิ่งลงแรงเช่นกัน โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 20.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,584 ดอลลาร์ต่อออนซ์