เอเอฟพี - น้ำมันและวอลล์สตรีทพุ่งแรงวานนี้ (1ก.พ.) ด้วยดาวโจนส์ปิดเหนือ 14,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2007 จากข้อมูลบวกด้านตลาดงานในสหรัฐฯ ขณะที่ปัจจัยนี้ก็ผลักให้ทองคำปิดบวกเช่นกัน
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 149.21 จุด (1.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,009.79 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 36.97 จุด (1.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,179.10 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 15.06 จุด (1.01 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,513.17 จุด
ดาวโจนส์พุ่งทะลุแนวต้าน 14,000 จุด จากตัวเลขภาคแรงงานอันแข็งแกร่งของสหรัฐฯ แม้รายงานเผยให้เห็นว่าในเดือนมกราคมมีการจ้างงานเพิ่ม 157,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่คาดหมาย และอัตราคนว่างงานก็สูงขึ้นสู่ระดับร้อยละ 7.9 จาก 7.8 ของเดือนธันวาคม
แต่ปัจจัยที่สร้างความคึกคักแก่นักลงทุนที่แท้จริงก็คือ ข้อมูลของกระทรวงแรงงานที่บอกว่าโดยรวมแล้วตลอดทั้งปี 2012 เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีการจ้างงานเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 181,000 ตำแหน่งต่อเดือน เหนือกว่าที่คาดหมายไว้เฉลี่ยแล้วราว 28,000 ตำแหน่งต่อเดือน
อนึ่ง สถิติปิดสูงสุดตลอดกาลของดาวโจนส์คือ 14,164.53 จุด เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2007 ก่อนหน้าสหรัฐฯ เผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ
ปัจจัยดังกล่าวประกอบกับข้อมูลทางเศรษฐกิจของจีน ส่งผลให้ราคาน้ำมันวานนี้ (1 ก.พ.) ปิดบวกพอประมาณ
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 28 เซ็นต์ ปิดที่ 97.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.21 ดอลลาร์ ปิดที่ 116.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2012
นักวิเคราะห์เผยว่า ข้อมูลภาคแรงงานไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ขับเคลื่อนราคาน้ำมันวานนี้ (1 ก.พ.) เนื่องจากตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนจากข้อมูลภาคการผลิตอันแข็งแกร่งของอเมริกาและจีน สองชาติผู้บริโภครายใหญ่ด้วยเช่นกัน
ด้านราคาทองคำวานนี้ (1 ก.พ.) ปิดบวกพอประมาณ จากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สดใสทั้งในสหรัฐฯ และจีน โดยราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 8.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,670.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์
