กฟน.รับแผนการยกระดับกรุงเทพฯ เป็น “มหานครแห่งอาเซียน” เดินหน้าทุ่มงบหลายหมื่นล้านบาท นำสายไฟลงใต้ดินเพื่อสร้างความสวยงาม เพิ่มประสิทธิภาพจ่ายไฟ เผยทำที่สีลมไปแล้ว ถนนสุขุมวิท-พญาไท-พหลโยธินถึงแยกลาดพร้าว ดำเนินการอยู่ ระบุผู้ประกอบการต้องทำระบบเชื่อมต่อใต้ดินรองรับ ด้าน กปน.เร่งขยายกำลังการผลิตรองรับการเติบโตของ ภาคอสังหาฯ และครัวเรือน
นายมนตรี พานิชกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการบริการระบบจำหน่าย การไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. กล่าวว่า ในส่วนของกิจการไฟฟ้าในไทยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ฝ่ายจำหน่าย และฝ่ายผลิต ฝ่านผลิต คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ส่วนจำหน่าย คือ การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ปัญหาท่อก๊าซจะส่งผลมาถึงพื้นที่บริการของ กฟน. ที่ผ่านมา กฟน.รับกระแสไฟฟ้ามาจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต โดยส่วนตัวไม่น่าจะมีปัญหาเพราะฝ่ายผลิตมีแผนรองรับอยู่แล้ว เช่นเดียวกับ กฟน.ก็มีแผนรองรับเสริมอีกทางหนึ่ง
สำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การจ่ายไฟของ กฟน. มีแผนทั้งระยะสั้น-ยาวในการปรับปรุงระบบจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพ เพียงพอรองรับผู้ใช้ไฟทั้งผู้บริโภค และผู้ประกอบการโครงการอสังหาริมทรัพย์
ส่วนเรื่องของค่าใช้จ่าย เมื่อประมาณปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการจะเจอในเรื่องของค่าไฟชั่วคราวที่ใช้ระหว่างก่อสร้างซึ่งมีราคาสูงกว่าค่าไฟปกติถึงเท่าตัว ซึ่งผู้ประกอบการคงจะต้องเร่งรัดการก่อสร้างให้เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม กรุงเทพมหานคร (กทม.) มีแผนจะยกระดับให้เป็นมหานครแห่งอาเซียน กฟน.จึงมีนโยบายเอาสายไฟลงใต้ดินเพื่อความสวยงาม และเพิ่มประสิทธิภาพในการจ่ายไฟ โดยใช้งบหลายหมื่นล้านบาท โดยส่วนที่ดำเนินการไปแล้ว คือ ที่ถนนสีลม และที่กำลังดำเนินการอยู่ ถนนสุขุมวิท พญาไท พหลโยธินถึงแยกลาดพร้าว ผู้ประกอบการจะต้องเตรียมหาระบบเชื่อมต่อใต้ดินไว้รองรับ ขณะที่ระบบสื่อสารได้เชิญผู้ประกอบการสื่อสารมาจัดระเบียบร่วมกัน โดยจะทำไปพร้อมกับโครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อนำร่องแก่ผู้ประกอบการในการให้บริการไฟฟ้า เพื่อให้รวดเร็ว และเกิดประโยชน์แก่ผู้ใช้บริการ โดยการรวมให้ผู้จัดการโครงการดำเนินการในแบบวันสต็อปเซอร์วิส
นายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ รองผู้ว่าการ (บริการ) การประปานครหลวง หรือกปน. กล่าวว่า กปน.รับผิดชอบ กทม. นนทบุรี และสมุทรปราการ ซึ่งที่ผ่านมา มีการขยายการผลิต จึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถรองรับการให้บริการรองรับการขยายตัวของอสังหาริมทรัพย์ไปได้ถึงปี 2558 ซึ่งที่ผ่านมา การประปา ก็ให้ความสะดวกในการให้บริการอย่างรวดเร็ว โดยได้มีการทำโครงการนำร่องการยื่นขอการรับรองน้ำ ยื่นจอสำรวจทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งได้ผลด้วยดี จึงจะเริ่มทำกับผู้ประกอบการทั่วไปในเร็วๆ นี้ รวมถึงสามารถการติดตามงาน การชำระเงินผ่านระบบออนไลน์