ก.ล.ต.ยืนยันไม่จำเป็นต้องเพิ่มมาตรการคุมหุ้นร้อน ชี้เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศเคลื่อนไหวปกติ ไม่ควรแทรกแซง ด้านโกลเบล็กคาดปีนี้หุ้นไทยพุ่งสูงถึง 1,700 จุด ครึ่งปีแรกแตะ 1,550 จุด จากมาตรการภาครัฐหนุน ชูกลุ่มวัสดุก่อสร้าง รับเหมา โดดเด่น
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า แม้ตลาดหุ้นไทยจะมีความผันผวนสูง และปรับตัวร้อนแรง แต่การเคลื่อนไหวของเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศยังเป็นปกติ ไม่มีอะไรที่น่ากังวล
ขณะเดียวกัน พบว่ามูลค่าการซื้อขายส่วนใหญ่ที่เพิ่มขึ้นมาจากนักลงทุนในประเทศที่หันไปลงทุนในหุ้นนอก SET100 ซึ่งมี P/E ที่สูงมาก โดยที่ผ่านมาก็ได้มีการเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังในการลงทุนมาโดยตลอด
“อยากเตือนให้นักลวทุนพิจารณาพื้นฐานของหุ้นนั้นๆ ด้วย ว่ามีความเหมาะสมกับราคาที่เป็นอยู่หรือไม่ โดยรวมยังไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มาตรการอะไรเพิ่มเติมเพื่อเข้ามาควบคุมดูแลในเรื่องนี้ การที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศใช้แคชบาลานซ์กับหุ้นเหล่านั้นก็ถือเป็นขั้นตอนในการควบคุมปกติ ส่วนเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศก็ควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไก ไม่ควรเข้าไปแทรงแซง”
อย่างไรก็ตาม อยากฝากไปถึงนักวิเคราะห์ และสมาคมานักวิเคราะห์ให้จัดทำบทวิเคราะห์ถึงหุ้นที่มีความร้อนแรงเหล่านี้ ด้วยเชิงคุณภาพ และควรกำหนดราคาเป้าหมายที่มีความเหมาะสม
โกลเบล็กคาดปีนี้หุ้น 1,700 จุด
นายจักรกริช เจริญเมธาชัย กรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยในปีนี้คาดว่าจะสามารถแตะที่ระดับ 1,700 จุด จากปริมาณเงินในระบบที่เพิ่มขึ้น 5 เท่าจากมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินจาก ECB, BOJ, FED โดยในครึ่งปีแรกเชื่อว่า ดัชนีจะอยู่ในกรอบดัชนี 1,450-1,550 จุดได้ ซึ่งตลาดจะเผชิญแรงขายหลังปรับตัวขึ้นต่อเนื่องรับ Fund Flows ที่ไหลเข้ามาในเอเชียแล้วในระดับสูง แต่ Downside Risk ถูกจำกัดจาก Trigger Funds ที่คอยซื้อหุ้นเมื่อดัชนีปรับตัวลง
ทั้งนี้ มองว่าตลาดหุ้นไทยยังคงมีปัจจัยบวกในเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาล เช่น มาตรการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานกว่า 2.3 ล้านล้านบาท ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มที่น่าจะได้รับอานิสงส์ดังกล่าว คือ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง พร้อมทั้งยังคงให้น้ำหนักหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มสื่อสาร ประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศยุโรป ปรับตัวผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
“เรามองว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยในครึ่งปีแรกมีโอกาสแตะระดับ 1,550 จุด เพราะมีหลายปัจจัยบวกสนับสนุนให้ดัชนีราคาหุ้นขยับตัวสูงขึ้น อีกทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวดีขึ้น ด้วยแรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย การผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้ต่อเนื่องจากการลงทุนภาครัฐ”
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้นักลงทุนปรับพอร์ตการลงทุนในหุ้น 25% ขาย CK, ITD แล้วเปลี่ยนตัวเข้า STEC, UNIQ ถือ CNT เพื่อเป็นการลดความเสี่ยง เนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นไทยในขณะนี้มีการแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ประกอบกับระยะสั้นยังไม่มีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน ในขณะเดียวกัน สถานการณ์ทางการเมืองก็ยังคงเป็นปัจจัยที่ยังคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง เลือก KSL, AMATA, BGH เป็น Top Picks ประจำเดือน ก.พ.