“คอลลิเออร์สฯ” เผยแบบสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก ชี้เมื่อเปิด AEC ภูมิภาคเอเชียจะมีความคึกคัก นักลงทุนข้ามชาติแห่ลงทุนเพิ่มมากขึ้น ขณะที่นักลงทุนเอเชียส่วนใหญ่ 70% ขยายฐานสู่อสังหาริมทรัพย์
นายสุรเชษฐ์ กองชีพ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิจัย บริษัทคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชันแนล ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า จากรายงานผลการสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกล่าสุด ของบริษัทคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชันแนล นักลงทุนชาวเอเชียยังคงมีทัศนคติที่เป็นบวกเกี่ยวกับความกังวลในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในอีก 12 เดือนข้างหน้า ผลสำรวจส่วนใหญ่ (79%) ยังคงแสดงความพึงพอใจอย่างสูงที่จะลงทุนในเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดบ้านเกิดของพวกเขา
นักลงทุนชาวเอเชียส่วนใหญ่ยังให้ความสนใจอยู่กับโอกาสในเป้าหมายการลงทุนแบบดั้งเดิม ตามเมืองหลักๆ ของประเทศจีน โดยที่มีประเทศสิงคโปร์เป็นเป้าหมายสำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม เมื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมา นักลงทุนในภูมิภาคคาดการณ์ว่าจะมีนักลงทุนข้ามชาติเพิ่มมากขึ้น “ในปี พ.ศ.2558 ประชาคมอาเซียนจะถูกรวมเข้าเป็นตลาดเดียวกันด้วยจำนวนประชากรทั้งหมดมากกว่า 600 ล้านคน นอกจากนั้น บางประเทศในภูมิภาคนี้ได้เปิดประตูให้แก่นักลงทุนต่างชาติ จึงทำให้มีโอกาสในการลงทุนมากมาย” ยิ่งไปกว่านั้น นักลงทุนชาวเอเชียส่วนใหญ่ (70%) มีความเป็นไปได้ที่จะขยายฐานการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และเพิ่มระดับในการลงทุนของพวกเขา เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลข 65% ในปี 2554 แล้วนั้น จะเห็นได้ว่านักลงทุนชาวเอเชียมีทัศนคติโดยรวมที่เป็นบวกมากขึ้น
นายเพียร์ส บรุนเนอร์ ประธานกรรมการบริหาร คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชันแนล เอเชีย กล่าวว่า แรงกดดันเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) นักลงทุนต่างก็ตระหนักดีถึงค่าเงินของพวกเขาที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มขึ้นตามที่ได้คาดการณ์ไว้ของสภาพคล่องของตลาดยังคงหมายถึงการได้รับเครดิตในปี 2556 ก็จะง่ายขึ้นด้วย ประกอบกับแนวทางที่ชัดเจนขึ้นของนโยบายของรัฐบาล และการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการส่วนใหญ่ในหลายประเทศจะเรียบร้อยภายในปีนี้ ทำให้นักลงทุนมีแรงสนับสนุนเพื่อที่จะดำเนินการตามแผนการลงทุนต่อไป
เมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจในปี 2554 ความไม่มั่นใจต่อสถานการณ์เศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญสูงสุดที่ป้องกันไม่ให้นักลงทุนชาวเอเชียขยายฐานการลงทุนของพวกเขา ในปีนี้ จากการสำรวจมีปัจจัยเพิ่มขึ้นมาอีก 2 ประการ คือ ความสามารถในการเพิ่มมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ตามมาด้วยอุปทานของอสังหาริมทรัพย์ที่ “เสนอขาย”
ทั้งนี้ นักลงทุนคาดหวังการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในปีหน้า ซึ่งกำลังจะก้าวผ่านปัญหาทางเศรษฐกิจที่รุนแรงของปี 2555 นักลงทุนเหล่านี้เป็นกังวลว่าพวกเขาจะสามารถเพิ่มเงินทุน และหาช่องทางการลงทุนที่มีคุณภาพท่ามกลางการแข่งขันรุนแรงในช่วงภาวะเงินเฟ้อได้หรือไม่ โดยจากผลการสำรวจ นักลงทุนชาวเอเชียได้ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนเอาไว้ค่อนข้างสูง นักลงทุนชาวเอเชียร้อยละ 41 คาดว่าจะได้อัตราผลตอบแทนจากโครงการเกินร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับผลตอบแทนร้อยละ 10-15 ของนักลงทุนในแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ และน้อยกว่าร้อยละ 10 ของนักลงทุนในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และยุโรปตะวันตก
ตัวเลือกเป้าหมายระดับสูงสุดสำหรับการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในทวีปเอเชียนั้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองเซี่ยงไฮ้ยังคงเป็นที่ชื่นชอบอันดับแรกของผู้บริโภค เป็นการพัฒนาตามธรรมชาติเมื่อพูดถึงการเลือกของนักลงทุนชาวเอเชีย โดยฮ่องกง สิงคโปร์ โตเกียว และปักกิ่งนั้น เป็นเป้าหมายที่ชื่นชอบของนักลงทุนชาวเอเชียสำหรับการลงทุนในอนาคต เป็นอันดับรองลงมาจากเซี่ยงไฮ้
ฮ่องกงนั้นเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นประตูสู่ประเทศจีน และได้รับความช่วยเหลือจากประเทศจีนในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เมื่อการแข่งขันรุกคืบเข้ามา ฮ่องกงก็ได้พยายามนำเสนอตัวเองในรูปแบบใหม่ เพื่อที่จะให้อยู่ในแถวหน้าของการแข่งขัน
“ฮ่องกงพร้อมจะรับอุปสงค์ใหม่จากประเทศจีน ซึ่งกำลังขยายบทบาทในฐานะเป็นศูนย์กลางการค้าเงินหยวน (RMB) นอกประเทศที่มีความสำคัญ ทำให้เป็นตลาดที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ถ้าจะให้ชัดเจนไปกว่านั้น อาจจะพูดได้ว่า การเปลี่ยนแปลงราคาอย่างน่าตื่นตาตื่นใจนั้น ทำให้ฮ่องกงกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ เมื่อพูดถึงเป้าหมายการลงทุนในภูมิภาคนี้”
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ลักษณะวงรอบของประเทศเปรียบเสมือนแม่เหล็กดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาการแข่งขันที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ ในปัจจุบันนี้ มีช่องว่างราคาระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย และดีกว่าในปี 2555 จุดเปลี่ยนสำหรับการทำธุรกรรมที่มากขึ้นนั้นน่าจะเกิดขึ้นหลังจากปี 2556 และ 2557 เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง อุปสงค์น้อยลง และอุปทานได้ปล่อยออกสู่ตลาดจนหมดแล้วในปี 2554 และ 2555 ในโตเกียว ผลผลิตที่กระจายอยู่ในตลาดในปริมาณสูง ยังคงเป็นสิ่งดึงดูดใจที่สำคัญสำหรับนักลงทุนชาวเอเชีย ขณะที่ความน่าสนใจของตลาดในกรุงปักกิ่งนั้นยังคงมีอุปสงค์แข็งแกร่ง เช่นเดียวกับอัตราการครอบครองที่สูง