คาดวิกฤตแรงงานปี 56 ทวีความรุนแรง พีดีเฮ้าส์ฯ เล็งรื้อแผนการตลาดปีตั้งรับ ชี้ความกังวลน้ำท่วม วิกฤตแรงงาน ทำภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านปี 55 ระส่ำ เชื่อมูลค่าตลาดรวมปีนี้ต่ำกว่าที่หลายหน่วยงานคาดไว้ ยังดีปรับตัวทัน หันขยายสาขาต่างจังหวัดกระจายความเสี่ยง แต่ยังกระทบยอดขาย และเปิดสาขาใหม่ปีนี้พลาดเป้าเหลือ 33 สาขา
นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ และเอคิวโฮม กล่าวว่า ในช่วงก่อนเข้าสู่ไตรมาสสุดท้ายปีนี้ บริษัทฯ ได้มีการปรับลดเป้าการขยายสาขาใหม่ และยอดขายรวมลง โดยจะเปิดสาขาใหม่ให้ครบ 33 สาขา จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 35 สาขา สำหรับยอดขายรวมจากเดิมตั้งเป้าไว้ 1,400 ล้านบาท ได้ปรับลดลงเหลือเพียง 1,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าสามารถทำยอดขายได้ใกล้เคียง
สำหรับสาเหตุสำคัญๆ ที่ต้องปรับลดเป้าลง เนื่องมาจากวิกฤตแรงงานที่กำลังเผชิญอยู่ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต ที่คาดว่าจะทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องทำการรื้อแผนการตลาดปี 2556-2557 ใหม่ทั้งหมด โดยจะชะลอแผนการขยายสาขาต่างจังหวัดลง จากเดิมที่วางไว้จะเปิดให้ครบ 50 สาขาในปี 2556 ทั้งนี้ เพื่อรอดูแนวทางการแก้ปัญหาแรงงานขาดแคลนของภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเป็นไปในทิศทางใด รวมทั้งเพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจภายใต้วิกฤตที่ยังไม่มีทางออกที่ชัดเจน
“ยอมรับว่า พีดีเฮ้าส์ เองไม่อาจหลีกพ้นกวิกฤตที่เกิดขึ้นเช่นกัน แต่ด้วยการปรับตัวของบริษัทฯ ในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะการเน้นขยายสาขาออกไปยังภูมิภาค หรือพื้นที่ใหม่ๆ ซึ่งก็พบว่าหลายๆ จังหวัดปัญหาแรงงานขาดแคลนไม่ได้วิกฤต หรือยังสามารถหาแรงงานมาทำงานได้ตามปกติ ส่งผลให้ภาพรวมของบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากวิกฤตที่เกิดขึ้นปีนี้ไม่รุนแรงมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ประกอบการรับสร้างบ้านรายอื่นๆ ซึ่งถือเป็นการบริหาร และกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ อย่างไรก็ตาม วิกฤตแรงงานงานครั้งนี้ก็ยังส่งผลกระทบต่อแผนการขยายสาขา และตลาดรับสร้างบ้านออกไปในต่างจังหวัดของบริษัทฯ ในปีนี้ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้เช่นกัน”
สำหรับภาพรวมของตลาดรับสร้างบ้านในปี 2555 ถือเป็นอีกปีหนึ่งที่ภาคธุรกิจรับสร้างบ้านต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤตอีกครั้ง ภายหลังจากในปี 2554 เจอกับวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ ทำตลาดรวมรับสร้างบ้านลดวูบกว่า 20% มาปีนี้ เจอกับกับวิกฤตแรงงานขาดแคลนอีก โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง ทำให้งานก่อสร้างชะงัก และรายได้ผู้ประกอบการไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้
ในขณะเดียวกัน ความกังวลว่าน้ำจะท่วมซ้ำของผู้บริโภคในช่วงไตรมาส 2-3 ได้บั่นทอน และฉุดกำลังซื้อให้ชะลอตัว โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีความเสี่ยงน้ำท่วม ทำให้ความต้องการสร้างบ้านของผู้บริโภคแทบหายไปหมด ซึ่งต้องรอลุ้นไตรมาส 4 จะกำลังซื้อจะกลับคืนมามากน้อยเพียงใด เชื่อว่ามูลค่าตลาดรวมรับสร้างบ้านนปี 2555 ไม่เป็นไปตามที่หลายๆ หน่วยงานคาดหมายกันไว้ว่าจะเติบโต 10-15%