ปธ.แบงก์กรุงเทพชี้ ศก.โลกปี 56 ยังมีความเสี่ยง เพราะยังใช้นโยบาย ดบ.ต่ำ และการว่างงานยังไม่ลดลง แนะภาครัฐ-เอกชนต้องปรับตัว คาด “จีดีพี” ปีหน้ายังโตได้ 4-5% จากการกระตุ้น ศก.ชั่วคราว และการลงทุนภาครัฐ พร้อมหนุนขึ้นค่าแรง 300 บาท 1 ม.ค.56 แต่ต้องดูเป็นรายพื้นที่ ส่วนความแตกแยกใน ส.อ.ท. ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์องค์กร
นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) แสดงปาฐกถาพิเศษเรื่อง อนาคตประเทศไทยปี 2556 โดยมองว่า เศรษฐกิจไทยในปีหน้ายังต้องเผชิญความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา และยุโรป ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านโครงสร้างเศรษฐกิจ ที่ต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาอีกนาน
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่บ่งชี้ภาวะความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ เราจะเห็นได้จากการที่ยังคงใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำ อัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างรุนแรง จึงเป็นปัจจัยที่ยังไว้วางใจไม่ได้ รวมถึงปัจจัยเสี่ยงจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ที่จะกระทบต่อความเชื่อมั่นทางการค้า และการลงทุน และปัจจัยจากปัญหาโลกร้อน
ดังนั้น การเตรียมความพร้อมรับมือความเสี่ยงในปีหน้า ภาครัฐ และเอกชนต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะยังเติบโตได้ในระดับ 4-5% จากการกระตุ้นเศรษฐกิจชั่วคราว ทั้งการอัดฉีดงบประมาณของภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม ภาคธุรกิจต้องปรับตัวในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการลงทุน ด้วยการจัดเตรียมงบประมาณเพื่อพัฒนาด้านการศึกษาให้แก่ทรัพยากรมนุษย์ และการสร้างพันธมิตรในหมู่ธุรกิจ
นายโฆสิต ยังกล่าวสนับสนุนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันทั่วประเทศ ในวันที่ 1 มกราคม 2556 แต่คงต้องดูอัตราค่าจ้างที่เหมาะสมของแต่ละพื้นที่ เพราะหากปรับขึ้นค่าแรงเท่ากันทุกพื้นที่ อาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในพื้นที่ที่มีอัตราค่าแรงต่ำมาก
“การปรับขึ้นเท่ากัน 300 บาททุกพื้นที่ในทันทีอาจจะกระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบการ และอาจส่งผลกระทบต่อการกระจายตัวของแรงงานไปยังภูมิภาคต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ภาครัฐควรหารือถึงความเหมาะสมของภาคเอกชน ว่า การปรับขึ้นค่าแรงที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ควรเป็นระดับใด”
ส่วนปัญหาความขัดแย้งภายในสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นายโฆสิต ยอมรับว่า ได้มีการติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ทราบว่าปัญหาจะดำเนินการอย่างไร โดยเชื่อว่าสมาชิกคงจะมีการร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาโดยเร็ว เพื่อปกป้องความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่องค์กร
