xs
xsm
sm
md
lg

เอกชนแนะรัฐบาล หวั่นค่าบาทแข็งอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ส.อ.ท. แนะกนง.ประชุมครั้งต่อไปน่าจะลดดอกเบี้ยลงได้อีกจากที่ล่าสุดลดลง 0.25% มาอยู่ที่ 2.75% เพื่อกระตุ้นศก. พร้อมให้ธปท.ดูแลค่าเงินบาทหลังแนวโน้มบาทแข็งค่าจากการเข้ามาเก็งกำไรของเฮดจ์ฟันด์หลังสัญญาณเศรษฐกิจโลกปีหน้ายังทรุดตัวต่อ ขณะที่พิษศก.โลกดิ่งฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตฯก.ย.ดิ่งสุดรอบ 9 เดือน

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า มีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจโลกปี 2556 จะชะลอตัวกว่าในปี 2555 ดังนั้นภาคเอกชนจะต้องเตรียมปรับตัวที่จะลดต้นทุนและสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจในทุกๆด้าน ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะต้องระวังในเรื่องของเงินไหลเข้าจากกองทุนเก็งกำไร(เฮดจ์ฟันด์) ที่เข้ามามากขึ้นซึ่งจะส่งผลต่อค่าเงินบาทให้แข็งค่าและจะมีผลต่อการส่งออกของไทย ส่วนอัตราดอกเบี้ยมองว่าน่าจะลดลงได้อีก

“ค่าเงินบาทก็เห็นว่าธปท.ดูแลอยู่เพราะคาดว่าทุกประเทศในภูมิภาคนี้คงจะเจอปัญหาค่าเงินเช่นกัน ส่วนคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ล่าสุดได้ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เหลือ 2.75% จริงๆแล้วมองว่าน่าจะลดลงได้อีกเพราะหากเทียบกับภูมิภาคของไทยก็ยังมีดอกเบี้ยที่สูงในลำดับต้นๆแต่ก็เข้าใจว่ารัฐอาจจะห่วงเรื่องของคนฝากเงินซึ่งการประชุมครั้งหน้าน่าจะลดได้อีกซึ่งก็จะทำให้ต้นทุนดอกเบี้ยของภาคธุรกิจและประชาชนลดต่ำลงถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ”นายพยุงศักดิ์กล่าว

สำหรับผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย (TISI) ในเดือนกันยายน 2555 จำนวน 1,045 ราย ครอบคลุม 42 กลุ่มอุตสาหกรรมของ ส.อ.ท. พบว่า ค่าดัชนีความเชื่อมั่นเดือน ก.ย. 55 อยู่ที่ 94.1 ลดลงจาก 98.5 ในเดือน ส.ค. 55 ซึ่งถือเป็นค่าดัชนีที่ต่ำกว่า 100 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และยังเป็นค่าดัชนีที่ต่ำสุดในรอบ 9 เดือนนับตั้งแต่ ม.ค. 55 ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นอยู่ในระดับที่ไม่ดี ทั้งนี้เนื่องจากความกังวลต่อปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวส่งผลกระทบต่อการส่งออก ขณะที่ต้นทุนการผลิตก็เริ่มสูงขึ้นจากราคาวัตถุดิบและค่าจ้างแรงงาน

“ค่าดัชนีฯ ก.ย.นี้ยังคงลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ประกอบกับดัชนีความเชื่อมั่นคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 103.5 ลดลงจากระดับ 105.7 ในเดือน ส.ค.เช่นกัน เพราะเอกชนยังมองภาวะเศรษฐกิจโลกทั้งสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปหรืออียูยังคงชะลอตัวโดยปัจจัยดังกล่าวเอกชนมีความกังวลมากสุด รองลงมาเป็นราคาน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน การเมืองในประเทศ” นายพยุงศักดิ์กล่าว

ทั้งนี้ จากผลสำรวจเอกชนได้เสนอแนะให้รัฐบาลดูแลสภาพคล่องทางการเงินของผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม (เอสเอ็มอี) อีกทั้งส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการไปลงทุนยังต่างประเทศโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน และจัดตั้งโครงการช่วยเหลือเยียวยา ชดเชยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน
กำลังโหลดความคิดเห็น